วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (40)

ทุกอย่างเรียบร้อยใช่มัยเสียงของคุณปู่เอ่ยถาม พี่ วุช กับพี่บังอรคนสวย ตอนที่ผมกับคุณปู่เดินออกมาถึงหน้าโรงแรม หลังจากที่ได้ฟังคำตอบว่าเรียบร้อยจากพี่ วุช คุณปู่ก็อารมดีมากมาย ก่อนที่ผมจะได้นั่งรถยนต์คันหรู ที่จอดรออยู่ตรงหน้า บอกตามตรงเลยว่า มันตื่นเต้นสุดๆเลย นี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นั่งรถตู้คันโตขนาดนี้  มันทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจปนๆกันไปหมด โดยมีคุณปู่ตัวปลอมนั่งอยู่ข้างๆผม อยากให้พ่อกับแม่ ได้มาลองนั่งรถแบบนี้กับผม มั่งจัง
ใช้เวลาไม่นาน รถก็มาจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง ที่ห่างบ้านผมไปเกือบ สองร้อยโล วันนี้ผมมาไกลเกินไปรึเปล่านะเผือหลงกันขึ้นมาคงได้ติดแห็งกอยู่ที่นี้
น้องพลอยากได้อะไร เลือกเอาเลยนะเสียงของคุณปู่บอกกับผม ขณะพาผมเดินเล่นไปในห้าง ผมได้แต่ยิ้มให้จนเดินมาถึงร้านอาหารคุณปู่ก็พาผมแวะเข้าไปนั่งทานอาหารเย็นกัน แอร์เย็นๆกับร้านหรูๆที่ผมได้เข้ามานั่ง มันทำให้ผมตื่นเต้นไปหมด อาหารก็อร่อย ทำเอาผมกินจนอิ่ม แทบจะไม่เหลือชากอะไรบนโต๊ะเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าผมจะได้มานั่งกินอะไรอร่อยๆแบบนี้ได้
คุณปู่มองอะไรครับ ผมถามคุณปู่ที่ผมรู้สึกว่ากำลังนั่งจ้องอะไรสักอย่างอยู่ข้างหลังผมทำให้ผมต้องทันไปมองตาม
ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้าผมต้องรีบหันหลังกับทันที แต่เมื้อกี้มัน แม่คำแก้วนี้หว่า พอคิดได้ผมหันกลับไปมองใหม่อีกรอบ ก่อนจะทำตาโตทันที่ ที่เห็นแม่นั่งบนตักผุ้ชายคนนั้นและมือไม้ของเขาก็ลูบไล้ไปทั่วตัวแม่
หน้าผมชาวูบ จนชีดไปหมด เกิดอะไรขึ้น ทำมัย ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแล้วแม่มาอยู่นี้ได้ไง
สมองสั่งการไม่เร็วเท่ากับปฏิกิริยาของร่างกาย เพียงไม่ถึงนาทีที่ผมเห็นแม่จูบปากกันกับผู้ชายคนนั้น ผมก็มาดึงแม่ออกจากตัวของผู้ชายคนนั้นซะแล้ว
แม่ แม่ทำอะไรผมร้องถามแม่เสียงหลง พอแม่เห็นผมก็ตกใจจนหน้าซีด แต่เพียงไม่ถึงนาทีที่ผู้ชายคนนั้นถามแม่ว่า
อะไรเธอรู้จักกับเด็กคนนี้ด้วยหรอผู้ชายคนนั้นถามแม่ แต่แม่ผมกลับบอกว่า เปล่าหรอก คำแก้วไม่รู้จักเด็กคนนี้หรอก เราไปร้านอื่นเถอะแม่ตอบผู้ชายคนนั้นโดยที่ไม่หันมามองผมเลยแม้แต่หางตา แม้แต่จะพูดกับผมสักคำแม่ก็ไม่พูด แต่กลับกำลังจะเดินหนีผมไป
แม่คำแก้วจะไปไหน กลับบ้านกันนะแม่ผมพยายามที่จะดึงแม่เอาไว้ ไม่อยากให้แม่ไปแค่นี้มันก็แย่พอแล้ว แม่กำลังจะนอกใจพ่อ ผมต้องพาแม่กลับบ้าน
นี้ปล่อยฉันนะ ไอ้เด็กเลว ฉันบอกให้ปล่อย”   “เพี้ย”    
ในขณะที่ผมกำลังพยายามที่จะพาแม่กลับบ้าน แม่หันมาด่าผม และ ตบเข้าที่แก้มของผม แม้มันจะไม่ค่อยแรง แต่หัวใจของผม มันกระตุกวูบ กับการกระทำของแม่ แม่ที่ผมรักมากที่สุด แม่คำแก้วที่ใจดี ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมยังไม่เคยโดนแม่ตีเลยสักครั้ง นี้เป็นครั้งแรกที่ผมโดนแม่ตี มันสามารทำให้ผมหยุดการกระทำทุกอย่างลงได้ เพราะกำลังซ็อกสุดขีด
หยดน้ำตาไหลลงอาบแก้ม อย่างไม่รู้สึกตัว หัวใจมันเต้นแปลกๆจนทำให้ผมปวดไปหมดจนแทบจะหายใจไม่ออก ใครก็ได้ช่วยผมหน่อย ผมเจ็บจนแทบจะล้มทั้งยืนได้อยู่แล้ว
น้องพลหลานปู่อ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณปู่ ที่หยิบยื่นมาให้ผมได้พักพิงจากเหตการณ์ที่ได้ผ่านพ้นไปเมื่อครู
ผมกอดคุณปู่แน่น พร้อมๆกับมีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากปากของผม
ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ไม่เป็นไรแล้ว ปู่อยู่นี้ ไม่ไปไหนอย่าร้องนะไม่ร้องนะน้องพล คุณปู่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ช่วยพูดปลอบใจผม ให้คลายความเสียใจ
ตอนนี้ผมสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี ได้แต่ยืนกอดคุณปู่เอาไว้แน่นเท่าที่ผมจะกอดได้ พร้อมๆกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มของผม


นี้ค่าตอบแทน ทำได้มีมากคำแก้ว นี้เช็คเงินสด 50 ล้าน ต่อไปก็ตาของ คุณต้นอย่าให้พลาดละ ยังมีอีก 50ล้านนะอย่าล้ม
เลขาสาวแสนสวยเดินจากไป พร้อมกับร้อยยิ้มเหยาะๆ ด้วยความรู้สึกที่สาแก่ใจ
ส่วนคำแก้วกำลังยืนมองเซ็คเงินจำนวน50ล้านในมือ ก่อนจะส่งแววตาเศร้าๆมองไปยังร่างของลูกชายของตัวเอง ที่กำลังจะถูกแย่งชิงไปจากตน แต่ด้วยความโลภที่ต้องการเงินจำนวนมหาศาลที่จะบรรดานให้ทุกสิ่งที่ต้องการเป็นจริง จำนวนเงิน 100ล้านในการเลิกยุ่งกับ ผัวและลูกชายตัวเอง

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (39)

ผมกำลังนั่งเกร็งอยู่ตรงหน้าผุ้ชายคนนั้นคนที่กอดผมและร้องให้กลางเวทีที่จะรับทุน ทำเอาผมตกใจแทบแย่นึกว่าเป็นอะไร เพียงไม่นานผมกลับถูกพาตัวมาที่ห้องนี้
ในห้องพักของโรงแรม ที่มีของใช้ต่างๆมากมากที่ถูกจัดไว้อย่างลงตัวและสวยงาม ผู้ชายคนนั้นพาผมมาที่นี้ และร้องเรียกใครอีกคนที่ชื่อ วุช ก่อนจะปิดประตูขังผมเอาไว้ในห้อง
และหายไปนานโขก่อนจะกลับเข้ามาและ นั่งยิ้มให้ผมอยู่แบบนี้ทำเอาผมอึดอัดไปหมด

"หวัดดี ฉัน ชื่อ อรรถพล ......... เราสองคนชื่อเหมือนกันเลยนะ" ผู้ชายคนนั้นพยายามที่จะชวนผมคุย แต่ผมไม่รู้จักเขารู้เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนที่ให้ทุนการศึกษากับนักเรียนทุกคน
แล้วก็เป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหย่ที่กำลังจะก่อสร้างในเขตนี้เท่านั้นเอง 
"ครับ"เสียงผมตอบและ แอบลอบมองผู้ชายคนนั้น ที่นั่งยิ้มมาให้ผม
"เธอ ชื่อ เล่น พล ใช่มัย ฉันเองก็มีชื่อเล่นพลเหมือนกันนะ เธอคิดว่าแปลกรึเปล่า" เขายังคงพยายามที่จะถาม เรื่อยๆ ผมเองก็ได้แต่ตอบไปว่า 
"ครับ" เหมือนเดิมไม่รู้จะตอบอะไรดี 
"พ่อเธอชื่อ ต้นตระการ..........ใช่เปล่า ฉันเองก็เคยรู้จักพ่อเธอนะ" คุณลุงที่ชื่อเหมือนผมเอ่ยถามผมอีกแล้ว บอกผมว่าเคยรู้จักพ่อผมด้วย
ทำให้ผมต้องหันหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้าให้เต็ม สองตาด้วยความสงสัย 
"คุณลุงรู้จักพ่อผมจริงๆหรอครับ " ผมถามคุณลุงคนนั้นไป ด้วยความสงสัย ถ้ารู้จักกันจริงทำมัยผมถึงไม่รู้ละ ผมว่าเขาต้องโกหกแน่ๆ เพราะวันๆพ่อทำงาน
อยู่ไร่อยู่นาจะไปรู้จักเขาได้ไงกัน
"เรียกฉันว่าคุณปู่ดีกว่านะ" ผุ้ชายคนนั้นบอกกับผมแต่แววตาและรอยยิ้มที่ส่งมาให้มันดูแปลก 
"ที่จริงฉันอยากให้เธอเรียกฉันว่าคุณพ่อด้วยซ้ำไป แต่เอาเถอะเรียกคุณปู่ก็ได้" ยิ่งพูดกับเขาผมก็ยิ่ง งง ท่าทางเขาบ๋องๆยังไงไม่รู้สิ อะไรกันจะให้ผมเรียกเขาปู่ เรียกเขา พ่อ 
ได้ไงกันไม่รู้จักกันสักหน่อย 
"เล่าเรื่องพ่อของเธอให้ฉันฟังหน่อยสิ ฉันไม่ได้เจอเขานานแล้วละไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง" เขาขยั้นขยอให้ผมเล่าเรื่องของครอบครัวให้ฟัง
แต่ผมไม่รู้ว่าเขาอยากจะรู้ไปทำมัยกัน 
"อืมจริงสิ ปู่ มีของขวัญจะให้น้องพลละ" เขาพูดเสร็จ ปลดสร้อยคอออกจากคอของเขาและใส่มันเข้าที่คอของผม 
สร้อยคอทองคำเส้นใหญ่ ที่เขาคล้องให้ทำเอาผมใจสั่นไปหมด นี้เขาจะให้ผมจริงๆหรอหรือว่าหลอกผมเล่นกัน 
"เอาละ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอก แค่ไม่ได้เจอพ่อพลนานแล้วเลยอยากรู้ว่าเขาสบายดีมัย เท่านั้นเอง เล่นให้ปู่ฟังหน่อยสิ"
เขาที่เรียกตัวเองว่าคุณปู่ ยังคงอยากให้ผมเล่าให้ฟัง ผมก็เลยค่อยๆเล่าให้ฟัง เท่าที่ผมจะรู้ 
" 555 จริงสิ พ่อน้องพล มีน้องพลตอนอายุ 16 ปีหรอ แสดงว่า ปู่สอนมาดี " เสียงคุรปู่หัวเราะล่วนเมื่อได้ยินผมเล่าเรื่องคุณพ่อให้ฟัง
หลายต่อหลายเรื่องที่ผมเล่าให้ปู่ฟัง แล้วปู่ก็หัวเราะชอบใจ ผมก็พลอยหัวเราพตามคุณปู่ไปด้วย 

"ผมเคยถามคุณพ่ออะ ว่าคิดไงตั้งชื่อผมว่า อรรถพล พ่อบอกว่า ไม่รู้สิ แต่มันคุ้นๆ พ่อคิดถึงชื่อนี้ขึ้นมาทีไร พ่อก็มีความสุขเลยอยากให้ลูกมีความสุขเหมือนพ่อ เลยตั้งชื่อมผว่าอรรถพล
ผมถามพ่อว่าเขาเป็นใคร แต่พ่อตอบผมไม่ได้ละ พ่อบอกว่าเป็นคนในความทรงจำ ที่พ่อนึกไม่ออกแต่พ่อมีความสุขที่คิดไม่ออกว่าเขาคือใคร
แค่คิดถึงชื่อก็ยิ้มได้ทั้งวัน คุณปู่ว่าแปลกมัย " หลังจากคุยกันซะนานผมก็ไม่กลัวคุณปู่คนนี้แล้วก็คุณปู่ท่าทางใจดี คุยสนุก ผมก็ถูกซะตาด้วยอย่างมากมายเลย

"อืม แสดงว่า พ่อต้นลืมคุณปู่อะดิ ดีนะที่ไม่ลืมชื่อ คุณปู่ด้วย จำได้ลางๆอะสิ ก็ตอนนั้นพ่อน้องพลตัวเล็กๆเอง เลยลืมไปว่าเคยอยู่กับคุณปู่แล้วมีความสุขขนาดใหน แต่ก็คงมีความสุขมากจนลืมไม่ลงยังคงจำได้รางๆ"
คุณปู่ พูดเสร็จ ใบหน้ายังคงยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิมก่อนจะเอามือลูบหัวผมเบาๆ 

"ผมก็ได้แต่พยักหน้า และส่งยิ้มให้" 

"หิวรึยัง กินอะไรก่อนนะ เดียวปู่จะพาไปเที่ยว" คุณปู่พูดเสร็จก็ยกโทรศัพท์เรียกพี่สาวคนสวยเข้ามา แล้วผมก็ได้กินข้าว เกิดมาไม่ไเคยได้กินอะไรแบบนี้เลย
กับข้าวแต่ละอย่างอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลย ส่วนคุณปู่ออกไปกับผู้ชายอีกคน บอกผมว่าให้รอในห้องเดียวคุณปู่กลับมา 
ผมว่าจะบอกคุณปู่ว่ารีบกลับบ้านเดียวจะไม่มีรถกลับเพราะบ้านผมอยู่ไกล แต่ไม่มีโอกาสได้บอกสักที จนกระทั่งคุณปู่กลับเข้ามาอีกทีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
อารมดีมากกว่าเดิมอีก 
"ปะน้องพล ไปอาบน้ำนะ เดียวออกไปข้างนอกกัน ปู่เอาชุดมาให้เปลี่ยนแล้ว" คุณปู่บอกกับผม แต่ผมสิกวนกวายใจจะแย่แล้ว
"คุณปู่ คือ เย็นแล้วผมต้องรีบกลับเดียวตกรถกลับบ้านไม่ได้ " ผมพยายามที่จะบอกคุณปู่ ไม่งั้นคืนนี้นอนข้างถนนแน่ๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือฉเพราะค่ารถกลับบ้าน
ไม่กี่ตังค์เอง 
"เดียวปู่จะไปส่งที่บ้าน ไม่ต้องกลัวหรอก หรือว่ากลัวคุณปู่"  คุณปู่บอกกับผม อืมถ้าไปส่งผมก็คงไม่เป้นไร เอางั้นก็ได้
"เปล่าผมไม่ได้กลัวสักหน่อย ไปส่งผมจริงๆนะ " ผมยังคงถามคุณปู่เพื่อความแน่ใจ อีกรอบ ก้อยากไปเที่ยวนี้นะ นานๆได้มาอย่างนี้สักที 
ถ้ามีคนไปส่งก็โอเคเลย คุณปู่พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่ผมจะรับเสื้อผ้าจากคุณปู่เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ



"น้องต้น พ่อสัญญาว่าจะทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเลวขนาดใหนพ่อก็จะทำ พ่อจะให้น้องต้นกับลูกกลับมาอยู่กับพ่อกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเมื่อก่อน"

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (38)

"ท่านประทานค่ะ นี้คือกำหนดการค่ะ"เสียงเลขาสาวสวยของนักธุรกิจใหญ่ในเครือ พิบูลกิจกรุ๊ป มอบกำหนดการให้นายใหญ่ รับไปอ่านดู 
การให้ทุนการศึกษากับเด็กเป็นเรื่องที่ทางบริษัทต้องคืนกำไรสู่สังคมและทำกันมาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ทุกครั้งก็ให้ทุนเด็กไทยกันทุกปี นี้เป็นปีแรกที่ให้
ทุนกับเด็กต่างประเทศ เนื่องจากทางบริษัทกำลังจะเปิดโรงงานผลิตสินค้าในการลงทุนทำธุรกิจในประเทศลาว โรงงานผลิตสินค้าที่มีขนาดใหญ่ 
แต่ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้มเท่าไหรนัก เพราะกระบวนการผลิตก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงมากพอดู และยังมีฝุ่นละอองจากกระบวนการผลิตจำนวนมากอีกด้วย
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดตัวและทำความรู้จักกับชาวบ้านให้รู้และสัทธาในโรงงานที่จะมอบรายได้จำนวนมหาศาสจากค่าแรงที่ชาวบ้านจะได้รับ
ซึ่งทางการลาวได้อนุมัติให้จัดตั้งได้ในทั้งถิ่นที่ธุรกันดารเพื่อพัฒนาท้องถิ่นนั้นให้มีควมเจริญ และที่สำคัญค่าแรงที่แสนถูกและค่าดำเนินการในการก่อสร้าง
ที่ถูกกว่าที่ประเทศไทยนับเกือบพันล้านทำให้ทางบริษัทตัดสินใจที่จะตั้งโรงงานในต่างแดนเป็นครั้งแรก ธุรกิจนำเข้าและส่งออกมากมายที่อยู่ในเครือของบริษัท
มีมากมายและสร้างรายได้ให้ทางบริษัทเป็นจำนวนมาก การก่อตั้งโรงงานในนครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งก่อนๆคือ มีความแค้นซ่อนอยู่ภายในโครงการที่จะก่อสร้าง

ศตรูอีกหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการแก้แค้น และสวยสุขอยู่ที่ฝั่งนี้ กำลังจะได้เจอกับความน่ากลัวของคนๆหนึ่งที่กลายเป็นเทพบุตรซาตาลในคราบนักบุญ 
จากเหตุการที่เกิดขึ้นเมื่อ15ปีก่อน 

"อืม มอบทุนเสร็จ ไปเปิดตัวโรงงาน แล้วจัดเลี้ยงข้าราชการผู้ใหญ่ในท้องถิ่น โอเค งานอย่าให้พลาด ต้องจัดการให้เรียบร้อย ถ้าโรงงานเปิดได้ และมีข้าราชการเป็นพวกพ้อง
เรื่องทุกอย่างก็จะง่าย บังอร อย่าให้พลาดฉันไว้ใจเธอ" สิ้นเสียงผู้เป็นเจ้านายสั่งการเสร็จ เลขาแสนสวยก็กล่าวลาเพื่อไปดำเนินการ 
ความแค้นที่ทำให้เขาพรากจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารัก โชคดีที่ไม่ตายไปเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสได้แก้แค้น เขาเจ็บเท่าไหรศตรูจะต้องเก็บมากกว่าเป็น 10 เท่า
100 เท่า จัดการถอนลากถอนโคลนให้หมด ใครขวงทางก็เขียทิ้ง ใครยอมเป็นหมาเลียแข้งเลียขาก็เลี้ยงเอาไว้อย่าให้เปลืองข้าวสุก หมดประโยชน์ก็แตะส่งไปให้ไกลหูไกลตา
อย่าให้มาก่อความวุ่นวายได้ในภายหลัง 

กำหนดการแรกคือ การมอบทุนการศึกษา 100 ทุ่นการศึกษาและเป็นทุนต่อเนื่อง ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนเยอะพอสมควรแต่มันก็คุ้มสำหรับการลงทุน
เพราะได้ให้การศึกษาและเมื่อพวกเขาเหล่านั้นจบมาก็จะมาเป็นกำลังสำคัญให้กับบริษัทให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้นไปอีกกว้าว 

การมอบทุ่นการศึกษาถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูขนาดใหญ่ เท่าที่จะหาได้ในละแวกใกล้เคียงพื้นที่ที่จะก่อตั้งโรงงาน ชายวัยกลางคนยืนยิ้มอยู่กลางเวทีขนาดใหญ่ 
มีแสงแฟสจากกล้องถ่ายรูปจำนวนมากมาส่องแสงวูบวาบไปมา มองดูจนรู้สึกหน้ามีดตามัว เด้กคนแล้วคนเล่าที่เดินขึ้นมาบนเวทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 
บางคนก็สั่นเทาไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้มายืนอยู่หน้าคนใหญ่คนโต ผู้ที่จะมาพัฒนาท้องถิ่นของต้นเองให้เจริญนักธุรกิจชาวไทยที่ชื่อว่า คุณอรรถพล......

ต่อ ไปเด็กชาย อรรถพล....... นักเรียนจากโรงเรียน.........อยู่ชั้น ป.4/1 ขอเชิญขึ้นมารับทุนบนเวทีด้วยครับ

เสียงพิธีกรที่เอ่ยชื่อของ ตัวเองออกมาทำให้ท่านประธานใหญ่รู้สึกหงุดหงิดและขายหน้าอย่างมาก งานใหญ่ขนาดนี้กลับให้ครูบ้านนอกมาเป็นพิธีกรบ้าๆ
เห็นที คงต้องได้ตักเตือนคนดำเนินการในครั้งนี้อย่างหนัก อุตส่าห์บอกแล้วว่าอย่าให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น แล้วนี้มันอะไรกัน ใบหน้าที่เปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัดของเจ้านาย
ทำเอาลูกน้องต่างกลืนน้ำลายแทบจะไม่ลงคอ เมื่อพิธีกรยังเอ่ยชื่อเจ้านายของตัวเองซ้ำอีกรอบ ให้ขายหน้าเล่น กลางผู้คนจำนวนมากบนเวที

"มาแล้วครับ อยู่นี้ครับ" เสียงเล็กๆร้องออกมาจนทำให้ใครหลายๆคนต้องหันไปมอง ร่างเล็กๆที่วิ่งอย่างรีบร้อนไปที่เวทีขนาดใหญ่ ที่อยู่เบื้องหน้า
เสื้อผ้าชุดนักเรียนที่ดูมอซอสร้างความสนใจให้ใครหลายๆคนเพราะ นักเรียนทุกคนที่มารับทุนได้รับการแจกจ่ายชุดนักเรียนใหม่ให้หมดทุกคนแล้วเพื่อใส่
เข้ามาในงานนี้แต่เด็กคนนี้ กลับใส่ชุดนักเรียนเก่าๆ ที่ค่อนข้างจะตัวใหญ่ไปสักหน่อย แต่ดวงหน้าและลอยยิ้มที่ส่งออกมาทำให้อดที่จะชื่นชมในความน่ารักไม่ได้ 

"แฮกๆ"เสียงหอบหายใจของคนตรงหน้าที่เพิ่งจะวิ่งขึ้นมาถึง แล้วคำขอโทษก็เอ่ยตามมาทีหลัง
"ขอโทษครับ พอดีผมท้องเสียเลยไปเข้าห้องน้ำ ทำให้มาสายขอโทษครับ" ร่างเล็กๆเอ่ยออกมาก่อนจะก้มและโค้งตัวลงให้กับผู้ชายตรงหน้า 

แต่อีกคนกับยืนอึ้ง กับภาพที่เห็น ภาพของใครอีกคนที่ซ้อนทับกับอีกคน ภาพของคนที่เขารักมากที่สุดที่หายตัวไป เมื่อ 15 ปีก่อน กับภาพ
ของเด็กคนนี้ ที่เหมือนกันยังกับคนเดียวกันนี้มัน 

สายตาของประธานบริษัทในเครือพิบูลกิจกรุ๊ป มองภาพของเด็กตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะย่อตัวลง อ่านป้ายชื่อ ที่ปักอยู่บนหน้าอกของเด็กชาย 
ที่ปักชื่อของคนที่เขารักมากกว่าสิ่งใด "ต้นตระการ ......" ชื่อและนามสกุล ที่บ่งบอกเอาไว้อยู่แล้วว่าเป็นใคร ทำมัยเขาจะจำไม่ได้ 
สัญลักษณ์ของโรงเรียนที่อยู่บนเสื้อด้วย ทำมัยเขาจะไม่รู้ 

"น้องต้น" เสียงเบาๆที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของท่านประทาน ก่อนที่จะดึงเอาร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้ามากอด หยดน้ำตาไหลอาบแก้ม ท่ามกลาง
เสียงกดชัตเตอร์และแสงแฟสจากกล้องถ่ายรูปยังคงดังระรัวไปทั่ว

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (37)

เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะรักใครได้มากมายขนาดนี้
เกิดมาไม่เคยภูมิใจและดีใจมากมายเท่ากับวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าเขา
เกิดมาไม่เคยคิดว่าต่อไปต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อใครได้มากมายขนาดนั้น
เกิดมาไม่เคยคิดว่าชีวิตของตัวเองจะขึ้นอยู่กับใคร นอกจากตัวของตัวเอง แต่ในวันนี้กลับไม่ใช่ ชีวิตจะอยู่ได้อย่างไรถ้าหากขาดเขาไปสักคน
เกิดมาไม่เคยคิดว่าฃีวิตของตัวเองจะได้ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากมายขนาดนี้ กับการที่ต้องรับผิดชอบชีวิตอีกหนึ่งชีวิตที่มีเพียงเราเป็นที่พึ่งพิง
เกิดมาไม่เคยคิดว่าความกว้าวหน้าการเติบโตของใครสักคนจะทำให้เรารู้สึกภูมิใจและปลาบปลื้มใจได้ทุกวินาทีที่เขาเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและสวยงาม
เกิดมาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะยอมตายแทนเขาได้

ทุกสิ่งทุกอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปหมดเมื่อเขากว้าวเดินเข้ามาในชีวิตของเรา  สองมือสองเท้าเล็กๆที่เราต้องคอยปกป้อง ภาระหน้าที่ที่เขายัดเยียดให้เราต้องทำให้ในทุกๆวัน
แต่เรากลับภาคภูมิใจและยินดีที่จะทำให้เขาได้ทุกอย่าง ขอเพียงมีรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะส่งมาให้ ให้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อ ทุกอย่างพ่อคนนี้จะคอยดูแลและปกป้องลูกรักด้วยชีวิต 


"ต้นๆ ไอ้ต้น"เสียงเรียกของพี่บัวร้องดังขึ้นพร้อมๆกับท่าทางที่รีบร้อนกระวนกระวาย
"มีอะไรพี่บัว" ผมร้องถามอย่างอยากรู้อยาเห็นปนสงสัย กับท่าทางของพี่บัว 
"อีคำแก้ว เมียมึง กำลังจะคลอดลูก" พี่บัวยืนหอบหายใจพลางเช็ดเหงื่อ บนใบหน้า ในขณะที่หัวใจของผมกลับพองโตเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
และความดีใจ
"อะไรนะพี่บัวพูดใหม่สิ พี่บัวคำแก้วทำมัยคำแก้วเป็นอะไร" เสียงของผมระรัวถามพี่บัวด้วยความสั่นเทา มือไม้แขนขาสั่นไปด้วยความตื่นเต้น
"เมียมึงกำลังจะคลอด..." พี่บัวพูดไม่ทันจบ ผมก็วิ่งออกมาทันที เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่รู้สึกว่าตัวเองวิ่งได้เชื่องช้ามากมาย ระยะทางจากนากลับมาบ้าน
ไม่ใช่ระยะใกล้ๆ ห่างไกลกันสามสี่โล แต่ผมวิ่งรวดเดียวจนถึงบ้าน 
บ้านหลังเล็กที่พ่อแสงแม่จันทรืสร้างให้ เมื่อ 7 เดือนก่อน ตอนที่พ่อแม่คำแก้วพาลูกสาวมาหาที่บ้าน เพราะคำแก้วต้งท้องได้เกือบสองเดือนแล้ว
อีกสามวันให้หลังพิธีแต่งงานของผมก็ถูกจัดขึ้นท่ามกลางสักขีพะยานและเสียงชุบซิบนินทาของใครอีกหลายๆคน จากนั้นบ้านหลังเล็กก็ถูกปลูกขึ้นใหม่
บนที่ดินของพ่อแสง บ้านของผมกับคำแก้ว ที่นาผืนน้อยที่พ่อแสงแบ่งให้ผมกับคำแก้วเป็นของขวัญ ททำให้ผมมีภาระที่ต้องทำทุกอย่างเพียงคนเดียว
ทั้งๆที่ผมอายุเพียง 16 ปี กลับกำลังจะเป็นพ่อคนในอีกไม่ช้า ไม่นาน 

บ้านหลังเล็กที่มีผู้คนมากมายกำลังเดินกันไปมา อย่างที่นานๆครั้งจะได้เห็น ถ้าไม่มีเหตการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เสียงร้องของคำแก้วดังเข้ามากระทบโสตประสาท
ทำเอาผมแทบคลั้งทำอะไรแทบไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมด เกิดมาเพิ่งเคยเป็นแบบนี้ครั้งแรก ในชีวิต ความกลัวมากมายวิ่งวุ่นในหัวของผม 
เป็นห่วงคำแก้ว เป็นห่วงลูกในท้องที่กำลังจะลืมตาดูโลกในไม่ช้า สรพเสียงต่างๆที่ดังมาจากผู้คนมากมากกลับดับสูญหายไปจนหมด 
ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย คิดแต่อย่างเดียวขอให้ทั้งสองคนปลอดภัย 

"แว้" เสียงเล็กๆร้องดังขึ้นจากบนบ้าน หัวใจของผมพองโตจนแทบระเบิดออกจากกัน เรี่ยวแรงที่เคยมีหายไปจนหมด 
ผมทั้งกลัวทั้งดีใจ จนอยากที่จะอธิบายให้เข้าใจความรู้สึกของผมได้ 

หมอตำแยประจำหมู่บ้านอุ้มเด็กทารกตัวเล็กๆ ผิวชีชมพูจนเกือบแดงลงมาข้างล่าง ทันทีที่เห็นหน้าลูก น้ำตาแห่งความภาคภูมิใจและความดีใจก็เข้ามาแทนที่
ความกลัว 

"เด็กผู้ชาย" เสียงแม่หมอตำแยบอกกับทุกคน เสียงร้องแซงแช่ด้วยความดีใจก็ดังไปทั่ว มีใครหลายๆคนเข้ามากอดเข้ามาจับมือผมเพื่อแสดงความดีใจด้วย
แต่สายตามกำลังจ้องหน้าของเด็กทารกในอ้อมกอดของแม่หมอตำแยอย่างไม่วางสายตา ผมอยากจะเข้าไปจับไปกอดไปอุ้ม แต่กลัวกลัวเหลือเกินว่าสองมือ
ที่กร้านกรำของผมจะทำให้ลูกชายเจ็บ เลยได้แต่ยืนมองด้วยความชื่นชมและภูมิใจให้กับลูกอยู่ห่างๆ เหมือลูกจะรู้เพราะผมเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่ส่งมาให้ผม
วินาทีนั้น แม้ต้องตายแทนลูกได้ ผมก็พร้อมที่จะยอมตายแทน ผมจะต้องปกป้องลูกให้เติบโตแข็งแรง และปลอดภัย ภาระหน้าที่ที่พ่อวัย 16 อย่างผมจะทำได้
ไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสขนาดใหนผมก็จะทำ ทำเพื่อลูกของผม ลูกที่ตอนนี้เขาคืนชีวิตและลมหายใจของผม ถ้าหากขาดเขาไปสักคนผมคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้บนโลกใบนี้แน่นแน

"อรรถพล" คือชื่อที่ผมตั้งให้กับลูกของผม มันเป็นชื่อที่ติดอยู่ในหัวของผมตลอดมา ผมแทบจำไม่ได้แล้วว่าเป็นชื่อใคร และมีความสำคัญกับผมยังไงบ้าง  
แต่ทุกครั้งที่คิดถึงชื่อนี้ผมมักจะยิ้มอย่างมีความสุข และลูกผมก็คงจะมีความสุข เช่นกันกับชื่อที่ผมตั้งให้กับเขา ส่วนนามสกุลของผม ที่ผมยังคงแปลกใจ
เพราะไม่เหมือนกับใครเลยสักคนในบ้าน ทั้งพ่อแสง พี่บัว แม่จันทร์ หรือแม้แต่ตะวันเองก็ตาม แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยให้ผมน้ำตาตกในเหมือนกัน
เมื่อพ่อกับแม่บอกผมว่าผมเป็นลูกเลี้ยงของพ่อกับแม่ ทั้งๆที่ผมคิดมาตลอดว่าผมเป็นน้องพี่บัวกับตะวัน มาโดยตลอด ผมเสียใจไปพักใหญ่ๆกว่าจะทำใจได้ ในเรื่องนี้
แต่ถึงจะยังไง แม่จันทร์กับพ่อแสง ก็ยังเป็นพ่อกับแม่ที่ผมรักมากที่สุดอยู่ดี และท่านก็รักผมมากๆด้วยเช่นกัน เมื่อผมคิดได้ผมจึงหายน้อยใจและตั้งใจ
ทำงานเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ให้มากที่สุด 

เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าการเป็นพ่อคนจะเหนื่อยได้มากขนาดนี้ แม้จะเหนื่อยใจแทบขาดจากการทำงานหนัก แต่พอกลับถึงบ้านได้เห็นหน้าลูกชาย
ที่วิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ ความเหน็จเหนื่อยจากการทำงานหนักมาทั้งวันก็หายไปจนหมด เพียงไม่กี่ปี จากวันแรกที่ผมเห็นหน้าลูกชายที่ตัวเล็กๆ
ในวันนั้นเหมือนจะเพิ่งผ่านไปเพียงไม่นานทุกอย่างยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ ตอนนี้น้องพล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผมก็วิ่งได้คร่องปรื๋อเลย
ทั้งๆที่เพิ่งจะ 5 ขวบเอง แต่หล่อน่ารักบาดใจสาวๆเหมือนท่านพ่อเลย ยิ้มออกมาที ทำเอาหายๆคนอดที่จะปลื้มในความน่ารักน่าชังของน้องพลไม่ได้เลย
แต่ อีกไม่นาน ผมคงได้เห็นหน้าลูกเพียงแค่ช่วงปิดเทอม เพราะตากับยายของน้องพล จะให้หลานได้เข้าไปเรียนหนังสือในเมือง
ที่ห่างจากที่นี้มากโข แต่ทำไงได้แม้จะไม่อยากจากลูกแต่ก็ต้องทำใจเพราะอนาคตของลูกสำคัญมากขนาดใหนใครๆก็รู้ ผมเองก้ไม่อยากให้ลูกมาเป็นชาวนาเหมือนผมหรอก
ต้องทำงานให้เยอะขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่จะเก็บเงินส่งลูกเรียนให้สูงๆ ซึ่งผมก็คงทำได้เพียงเท่านี้เพราะผมเองก้ไม่มีความรู้อะไรเลย อ่านหนังสือแทบไม่ออก
แต่อ่านภาษาไทยออกนิดหน่อย อย่างน้อยก็เขียนชื่อนามสกุลตัวเองได้อย่างคล่องแคลว ถ้าจะอ่านจริงๆก็นั่งสกดกันนานหน่อยกว่าจะอ่านจนจบประโยชน์ 
ซึ่งมันคงไม่มีประโยคน์สำหรับลูกสักเท่าไรไม่อยากให้ลูกโง่เหมือนตัวเอง แม้จะคิดถึงแทบขาดใจก็ต้องทนยอมให้ลูกห่างไกลตัวเอง 
ทำได้เพียงแค่สวดมนต์อ้อนวอนขอพรพระให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย และเป็นกำลังใจให้ อยู่ห่างๆ 

ทุกวันเวลา ผมรอคอยช่วงปิดเทอมที่ ตากับยายของน้องพลจะให้หลานกลับมาอยู่ที่บ้านแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ทำให้ผมมีความสุข และภูมิใจในตัวลูกชายของผม
ที่เห็นเขาเป็นเด็กฉลาดเรียนเก่งและน่ารักยิ่งกว่าใครๆอย่างนี้ 

"พ่อ ๆ ผมได้ทุนเรียนดีจากบริษัท พิบูลกิจ ของประเทศไทย ครูเขาส่งชื่อผมไป" ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่ใช่ในช่วงปิดเทอม ลูกชายของผมที่กำลัง
จะโตเป็นหนุ่มในอีกไม่นานกลับมาที่บ้านมาบอกผมในความสำเร็จของเขา ให้ผมได้ภูมิใจ จนน้ำตาไหล เพราะน้องพล ต้องไปสอบแข่งขันชิงทุนการศึกษา
จากเด็กคนอื่นๆนับพันคน เพื่อที่จะเอาแค่ 100 คน และคนที่ 100 นั้นก็คือลูกของผมเอง ที่สำคัญทุนนี้ให้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบ ชั้นประถม
และถ้าผลการเรียนดี เขาก็ให้ต่อจนจบชั้น ม.6 นั้นทำให้น้องต้นดีใจ มากที่สุด 
ลูกบอกกับผมว่าพ่อจะได้ไม่ต้องทำงานหนักมากเพราะเงินทุนที่ได้เพียงพอที่จะใช้ในแต่ละเดือนอย่างไม่เดือนร้อนมากนักถ้าใช้อย่างประหยัด พ่อจะได้ไม่เหนื่อย
คำพูดของลูกทำเอาผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กอดลูกชายตัวเองแน่น ด้วยความภูมิใจ สำหรับเด็กอายุ 10 ขวบอย่างน้องพล คิดได้ขนาดนี้ผมเองก็ภูมิใจมากที่สุดแล้ว 

"พ่อๆ นี้ชุดนักเรียนใครอะ " น้องพลถามผมเมื่อลูกทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ทำให้ต้องโยกย้ายข้าวของในบ้านไปมา และน้องพลก้ไปเจอชุดนักเรียน
เก่าๆ ที่สีซีดๆ ที่ผมเองก้แทบจำไม่ได้แล้วว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของผม เมื่อผมบอกลูกไปว่า ผมเคยใส่เรียนตอนเป็นเด็ก น้องพลก็ดีใจและขอชุดนักเรียน
เก่าๆของผมไป 

"ผมขอ ผมจะใส่ไปรับทุน ผมใส่ชุดพ่อเหมือนผมกับพ่อได้รับทุนทั้งสองคนเลย ผมขอนะ" ลูกชายรบเร้าอยากจะได้ ผมเองก็อยากจะให้แต่กลัวลูกจะอายเพื่อนๆ
เพราะสีมันออกเหลืองๆไปซะแล้วแม้จะเก็บไว้ในห่อผ้าอย่างดีก็ตาม 
"ไม่อายเพื่อนหรอ ชุดมันเก่าแล้วนะ ใส่ชุดใหม่ดีกว่ามัยพ่อพอมีเงินพ่อจะชื้อให้" ผมบอกน้องพลไปเพราะกลัวลูกจะอายเพือนที่ใส่ชุดเก่าๆ
"ผมมีสองชุดแล้ว ยายชักให้ ทุกวันตอนเย็น แต่ตัวนี้ผมจะใส่ไปรับทุนแล้วจะเก็บเอาไว้ดูต่างหน้า ผมจะเรียนให้เก่งๆไม่ให้พ่อผิดหวัง" 
ผมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ กับลุกชายที่ผมรักมากที่สุด แม้ต้องตายแทนลูกเมื่อเขามีอันตราย ผมก็พร้อมที่จะตายแทนลูกผมได้อย่างไม่ลังเลเลย 
แผ่นหลังของลูกชายที่เดินจากไปห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ทำเอาผมใจหาย แต่อีกไม่นานลูกก็จะกลับมาสู่อ้อมกอดผม แม้จะห่วงๆ แต่ก็อวยพรให้เขาปลอดภัย

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (36)

วันเวลาไม่เคยคอยใคร ไม่เหมือนกับใจของคนเราที่เอาแต่คอย บางคนก็คอยความหวัง บางคนก็คอยเวลา บางคนก็คอยบุญวาสนา แต่เวลากับไม่เคยหยุดรอใคร มันยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปอย่างซื่อสัจ และจากเราไปอย่างที่ใครหลายๆคนไม่เคยเฉลียวใจเลยว่าวันเวลานั้นผ่านตัวเองไปนานเท่าไรแล้ว
บริษัทในเครือ พิบูลกิจ ผู้นำทางด้านการส่งออกและนำเข้ารายใหญ่ของประเทศ ที่เมื่อ 15 ปีก่อน บริษัทเกือบล้มละลาย เพราะผู้บริหารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วคณะผู้ถือหุ้นก็พากันถอนหุ้นคืนเกือบหมด เพราะว่าผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทถูกโจรกรรมนำไปผลิตและนำออกจำหน่าย ตัดหน้าทำให้บริษัทต้องสูญเงินหลายพันล้านบาท จนทำให้ผู้ถือหุ้นตื่นตกใจและไม่ไว้ว่างใจต่อทางบริษัท แต่ยังนับว่าโชคดี ที่ ยังมีผู้บริหารของบริษัทอีกคนที่ยังมีชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิดจากการถูกลอบยิง  และเขาคนนั้นก็ได้กลับมาฟื้นฟูบริษัท พิบูรณ์กิจขึ้นมาใหม่อีกรอบ เพียงเวลาไม่ถึง 5 ปี ก็กลับมายืนผงาดในวงการธุรกิจได้ใหม่อีกรอบ และตอนนี้ 15 ปีที่เขาทุ่มเททำงานให้กับบริษัทพิบูลกิจ จนกลายมาเป็นผู้นำทางด้านการส่งออกและนำเข้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ เขาผู้ซึ่งมีอำนาจทางการเงินอำนาจทางเศษกิจและอำนาจมืด ที่ก่อเกิดขึ้นในภายหลังจนเป็นที่แกรงขามไปทั่วในแวดวงของคนดัง

นาย อรรถพล มหาเศรษฐีวัย 46 ปี ที่ยังคงโสด เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายๆคน ฉากหน้าที่ดูยิ้มแย้มกับธุรกิจที่ดูสะอาด แต่เบื้องหลังทั้งหมด คือการแก้แค้น  หลังการกลับมาผงาดในวงการธุรกิจของบริษัทพิบูลกิจ เพียง 5 ปี กลับทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทล้มทั้งยืน และผู้บริหารระดับสูงหลายคนถึงกลับต้องฆ่าตัวตาย  และอีกหลายคนตกงาน ไม่มีใครรับเข้าทำงานจนต้องหันเหตัวเองมาเป็นคนเก็บขยะ
และอีกหลายคนหายตัวไปอย่างไร้ล่องรอย แม้แต่ทางตำรวจยังจนปัญญาที่จะคลี่คลายปัญหาได้

ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่ร่างของชายวัยกลางคนอีกคนจะเดินเข้ามา
ท่านครับ ผมเอากำหนดการมาให้ ชายคนนั้นกล่าวและวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้องทำงานสุดหรู  แต่ผู้เป็นเจ้านายเพียงหันไปมองแวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะกลับมาสนใจที่รูปถ่ายของเด็กชายคนหนึ่งที่ดูเก่าซีดจางลงไปเยอะมาก แต่คนในรูป กับกำลังยิ้มมาให้อย่างน่ารักน่าซัง

ผมว่าพี่ พักผ่อนหน่อยดีกว่านะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อีกไม่กี่วันต้องเดินทางไปที่เวียงจันทร์ พี่ยังจะไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมจะให้คนอื่นไปแทนเสียงของลูกน้องมือขวาพูดขึ้นทำให้ ผู้ที่เป็นเจ้านายต้องวางกรอบรูปลงที่ขั้นก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ
ไปสิ วุช พี่สังหรณ์ใจแปลกๆ ยังไงพี่ก็ต้องไปให้ได้เชื่อลางสังหรณ์ของพี่สิ แต่ เรื่องที่ให้ไปสืบไปถึงไหนแล้ว

ก็ได้เรื่องมาบ้างแล้วละพี่พล ไอ้นนท์ ที่เป็นคนจับน้องต้นไปนะ มันหนีไปกบดานที่ลาวนั้นแหละ แต่คิดว่ามันคงรู้ตัวแล้วละ ยังไงๆมันก็คงหนีไม่รอดหรอกเราส่งคนไปสืบล่วงหน้าแล้วละ ยังไงผมจะจับมันมาให้พี่กับมือผมเอง
ขอบใจ วุช ขอบใจที่อยู่เป็นเพื่อนพี่มาหลายสิบปี ถ้าจับมันได้เราคงได้รู้ว่าน้องต้นอยู่ไหน แม้จะเหลือเพียงเศษกระดูกพี่ก็จะตามลูกพี่กลับมาอยู่กับพี่ให้ได้เสียงพูดที่สั่นเครือของผู้ที่เป็นทั้งเจ้านาน และแอบเป็นทั้งคนที่ตัวเองรักเมื่อเจ้านายเผลอไผลทำให้ต้นได้ครอบครองร่างกายนั้นอยู่เรื่อยมา แม้จะไม่เคยอยู่ในสายตา แต่เขาก็จะทำให้ดีที่สุดเขาจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอารอยยิ้ม ที่สดใสของคนที่เขารักกลับคืนมา แม้ว่าเขาจะเจ็บปวดมากขนาดไหนก็ตาม ขอเพียงแค่ ได้อยู่ใกล้ๆอย่างนี้ก็พอแล้ว
พี่ไปพักผ่อนเถอะ แล้วที่เหลือผมจะจัดการให้ผู้เป็นเจ้านายพยักหน้าและยิ้มมาให้ ก่อนจะเอ่ยคำพูดว่า ขอบใจวุช ขอบใจมากๆให้เขาได้ยิ้มตอบบางและก็เดินจากเขาไป
ชายหนุ่ม มองมือของตนเองอย่างเลือนลอย กี่คนแล้วยะที่เลือดของมันต้องมา เปื้อน มือของเขา อีกไม่กี่วันก็คงได้ลงมืออีก แต่แต่ได้เห็นเจ้านายยิ้มอย่างพอใจเมือได้ยินข่าวการตายของศตรู สำหรับเขาก็พอแล้ว เพราะวันนั้นเขาได้ได้โอบกอดคนที่เขารักอีกครั้ง ได้ครอบครองทุกอย่างที่เคยเป็นของเขาอีกครา และเขาเองก็มีความสุข
นี้สินะที่เขายอมทำทั้งๆที่ไมอยากทำ แต่เมื่อทำสำเร็จแล้วเขามีความสุข เพราะงั้นเมื่อคิดถึงความสุข จึงทำใจให้เลิกทำไม่ได้สักที และที่สำคัญ ตลอดเวลา 15 ปี มีเพียงเขาคนเดียวที่ได้จับต้องร่างกายของผู้เป็นเจ้านายและได้มอบความสุขให้แก่กันและกัน นี้คือสิ่งที่เขาภูมิใจมากที่สุด
พี่บัว เร็วๆหน่อยพี่เดียวไปไม่ทันนะเสียงของผมเองครับ หลายๆคนอาจจะจำไม่ค่อยได้เพราะ ว่ามันแปร่งๆ ยังไงชอบกล ผมเองก็ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไร เพราะมันฟังดูแปลกๆ แม่จันทร์บอกว่าเสียงแตกหนุ่ม อืม ก็คงเป็นอย่างนั้นมัง เพราะตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นเด็กตัวเล็กๆอีกแล้วสักหน่อย เพราะผมตอนนี้ก็ จะ 15 ปีแล้ว มาอยู่ทีนี้ 4 ปีแล้วสิเรา ร่างกายมันก็โตขึ้นๆ แขนขาก็ยาวผิดปกติบางทีก็ทำให้หงุดหงิด แต่ถึงยังไงๆ ผมก็เริ่มที่จะชอบมันและเริ่มชินกับมันแล้วละ แล้วที่สำคัญ หล่อใช่เล่นซะหน่อย

ไม่ต้องรีบหรอกไอ้ต้น อีแก้วเมียมึงมันไม่หนีไปไหนหรอก ยังไงๆ มันก็รอมึงกับกูอยู่ดีนั้นแหละเสียงของพี่บัวร้องบอกผม แม้ทำไงได้ ก็ผมกำลังมีความรักนี้ครับ  คำแก้ว หญิงสาวที่สวยที่สุดในหมู่บ้านเธอยินดีและยินยอมมาคบกับผมเป็นแฟนกันได้นานหลายปีแล้ว แต่ผมนี้สิไม่ค่อยมีเวลาไปหาเธอเลย เพราะงานที่บ้าน ผมต้องช่วยทุกคนทำงานแล้วเพิ่งผ่านฤดูทำนามาไม่นานนี้เอง ผมก็ยิ่งเลยไม่ว่างใหญ่เลย  เพราะทั้งไถนาทั้งดำนากว่าจะได้เสร็จแต่ละวันก็เล่นเอาจนเหนื่อยพอตอนเย็นก็หลับเป็นตาย ไม่มีเรี่ยวแรงจะไปหาใคร แต่หวานใจของผมก็เทียวมาเยี่ยมเยือนผมที่นาทุกวัน

เรื่องราวมันก็เกิดจากเมือตอนที่ผมอายุ 12 ขวบ ผมกับพี่บัวไปหาเก็บได้กันและไปเจอคำแก้ว เด็กสาวแสนดีของผมเอง เอาละจะเล่าให้ฟังก่อนแล้วกัน
ต้น ดูนั้น คำแก้ว สวยมัย ว่าที่เมียพี่ในอนาคตพี่บัวบอกน้องต้น แต่ เหอะๆเหมือนจะเป็นความโชคดีของผมที่ผมเป็นของนอก ผมเลยได้เธอมาครองทำให้พี่บัวต้องกินใบบัวบกแก้ช้ำใน แหม ใครบอกให้เธอบ้าของนอกละครับ ผมดันเป็นเด็กนอกซะอีกแถมหล่อซะด้วยเลยได้ใจเธอไปเต็มๆเลย
พี่บัว ๆ ทางนี้เสียงของคำแก้วร้องบอกพี่บัวก่อนที่ผมกับพี่บัวจะเดินไปหาเธอกัน
หวัดดีจ๊ะน้องคำแก้ว มาเก็บไต้หรอจ๊ะให้พี่ช่วยเก็บใหมอะเสียงพี่บัวเก็กหล่อซะเต็มที่แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย
หวัดดีพี่บัว แล้วนี้เธอที่เป็นคนไทยใช่มัยเสียงของคำแก้วถามผม เมื่อผมตอบว่าใช่ เธอแทบจะร้องกรีดๆ ออกมาดังๆเลย เพราะผมเห็นเธอทำท่าทางจะร้องแต่กลั้นเอาไว้สุดๆแต่มือของเธอก็แสดงให้เห็นว่าเธอกรีดในใจไปแล้ว เล่นกำกำปั้น ยกขึ้นยกลงน่าหวาดเสียว กว่าที่เธอจะตัวสติได้ก็นานเป็นนาทีเลยทีเดียว

หวัดดีจะ เราคำแก้วนะแล้วเธอชื่ออะไรหรอคำแก้วทำเสียงอ่อนเสียงหวานส่งมาให้ผม พอรู้ว่าผมชื่ออะไรก็เกือบได้กรีดคับป่ากันเลยทีเดียว
วะชื่อเพราะจังเลย พี่ต้น คำแก้วเพิ่งเก็บไต้ได้นิดเดียวเอง พี่ต้นไปช่วยคำแก้วเก็บหน่อยสิ คำแก้วกลัวนะพี่ต้นนะค่ะคำแก้วพูดเสร็จ ก็ดึงแขนผมให้เดินจากพี่บัวออกมาทันทีเลย ปล่อยพี่บัวอ้าปากค้าง ยืนมองพวกผมสองคนเดินหายลับตาไป ส่วนผมก็ได้แต่เดินตามคำแก้วไปเรื่อยๆ
พี่ต้นค่ะ คำแก้วรักพี่ต้นค่ะ พี่ต้นเป็นแฟนคำแก้วนะค่ะนั้นคือประโยชน์บอกรักที่คำแก้วบอกกับผม แต่ผมยังงงไม่ค่อยเข้าใจความหมายมันสักเท่าไหรเลยได้แต่ยืนอึ้ง อยู่กับที่
ส่วนคำแก้วก็กอดผมเอาไว้แน่นและมือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปตามตัวผม
พี่ต้นค่ะ คำแก้วเหงาๆคำแก้วเห็นพ่อกับแม่นอนกอดกันทุกคืนเลยค่ะ
แค่คำแก้วพูดอารมผมก็กระเจิงไปหมดแล้ว ใช่ว่าผมจะไม่เคยรู้สึกตัวตอนดึกๆเพราะพื้นมันสั่นสะเทือนและเสียงแปลกๆของแม่จันทร์กับพ่อแสง ถ้าลืมตาขึ้นมามองก็คงจะเห็นหมดทุกอย่างแต่ผมก้ได้แต่นอนหลับตาและพยายามระงับอารมณ์ ของผมเอาไว้ อยากบอกว่ามันทรมานมากมายขนาดไหน จนพี่บัวต้องหาข้ออ้างนอนค้างที่นาบ่อยๆ เพราะพ่อกับแม่อารมร้อนแรงเอากันได้แทบทุกวันคงคิดว่าลูกๆหลับคงไม่ตืนละสิ ยิ่งไอ้ตะวันนอนKแข็งตั้งแต่เดินเข้าที่นอนรอดูพ่อกับแม่ทุกคืนเลยนิ

พี่ต้นค่ะเสียงของคำแก้วร้องเรียกผมทำให้ผมรู้สึกตัว
“Kพี่แข็งแล้ว คำแก้วดูนะนั่นคือเสียงที่ผมได้ยินพร้อมๆกับกางเกงของผมที่ถูกรูดลงไปทำให้เห็นแท่งลำที่เริ่มจะโตตามวัยชี้โด่เด่อยู่ตรงนั้น พร้อมๆกับมือของคำแก้วที่ลูบไล้มันไปมา จากนั้นทุกอย่างมันก็ขาวโพลนไปหมด
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ทุกอย่างก็สงบลงเรียบร้อยแล้ว ผมได้เสียกับคำแก้ว โดยมีพี่บัวเป็นพยานรักเพราะยืนน้ำตาไหลพรากๆ แต่Kแข็งโด่ชี้หน้าด่าผมอยู่ จากนั้นชีวิตผมก็มีคำแก้วเข้ามาเกี่ยวของเรื่อยไป
แต่ทุกคนก็ยังไม่มีใครรู้ นอกจากพี่บัวที่พูดโป้งๆว่าอีแก้วมันเป็นเมียผม จนโดนพ่อกับแม่ด่าเรื่อยไปกลัวเขาจะมาไหมปากพี่บัว แม้จะพูดความจริงแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเพราะแม่กับพ่อบอกว่า น้องมันเด็กตัวแค่นี้ทำอะไรไม่เป็นหรอกอย่าไปพูดมั่วเดียวจะโดนเขาไหมปากเอา พี่บัวเลยเลิกพูดแต่ก็พูดทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันสามคน ว่าอีคำแก้วเมียไอ้ต้น   นั้นคือเรื่องราวที่ผมได้แฟนมา ผมกับคำแก้วแอบไปเอากันบ่อยๆ โดยที่ไม่ค่อยมีใครรู้ เมื่อผมต้องไปเก็บได้ แต่ได้เอาเมียทุกครั้งผมก็เลยชอบไปเก็บได้ พอๆกับคำแก้วด้วยเหมือนกัน
ส่วนมันนี้วันออกพรรษา ผมกับคำแก้วจะไปเวียนเทียนกันที่วัดและขากลับต้องแวะข้างทางสักหน่อย ผมเลยรีบแต่ดูเหมือนพี่บัวจะรู้ทันแกล้งถ่วงเวลาของผมชะแบบว่าช้ามากมายเลย คืนนี้สงสัยต้องใช้เกรีย 5 รีบแทงรีบแตก   -  -

เพราะพี่บัวคนเดียว


อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX(35)

ต้น ต้น ต้นๆ ตื่นๆ สายแล้วผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดของวันใหม่ที่มองออกไปจากตัวบ้านท้องฟ้ายังมืดมิดอยู่เลย แต่ก็ยังพอมองเห็นได้จากแสงจันทร์ที่ส่องลงมา เห็นแล้วก็ง่วงนอนอีกรอบ อยากจะล้มตัวลงนอนให้หลับสบายๆ แต่ก็ต้องรีบตื่นเมื่อรู้ว่าคนที่มาปลุกน้องต้นให้ตื่นนอนม่ายใช่คุณพ่อ พล แต่เป็นพี่บัวลูกพ่อแสง 
พี่บัวคนอื่นไปไหนหมดน้องต้นถามพี่บัวทั้งๆที่ตัวเองยังนั่งหาวนอนอยู่เลยตามันสะลึมสะลือ มีแต่จะหลับอย่างเดียว

แม่ไปตำข้าว พี่กับตะวันไปทอดแหที่ห้วย ส่วนเราสองคนต้องไปหาหน่อไม้ ปะไปกันพี่บัวพูดเสร็จก็ดึงแขนน้องต้นให้ลุกขึ้นและเดินตามลงไปข้างล่าง ก่อนที่น้องต้นจะช่วยพี่บัวถือตะกร้า และเดินตามหลังพี่บัวไปอย่างง่วงๆ 
ต้น ลืมตาดูทางหน่อยสิ เดียวเดินตกคันนาหรอกพี่บัวหันมาดุน้องต้นที่ เดินไปหลับตาไปทำให้เกือบตกคันนาหลายรอบ สองเท้าเล็กๆของน้องต้นเดินตามพี่บัวไปอย่างไม่ลดละจนมันรู้สึกปวดตุบๆ แต่น้องต้นก็ไม่ได้บ่นให้ใครฟัง น้องต้นก็อดทนเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่หมายที่เป็นป่า ค่อนข้างรก แต่มีทางให้เดินเล็ดลอดเข้าไปเหมือนมีคนเดินผ่านเป็นประจำจนเกิดเป็นทางเดินเล็กๆขึ้น จากนั้นหน่อไม้หน่อแรกจากกอไผ่ที่พี่บัวพาน้องต้นเดินไปเจอก็โดนพี่บัวเอามาใส่ตะกร้า โดยมีน้องต้นยืนมองด้วยความสนใจ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ที่น้องต้นเดินตามพี่บัวหาหน่อไม้ ตอนนี้ตะกร้าเปล่าๆ เริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน้องต้นที่ถืออยู่ปวดแขนไปหมดแล้ว แต่พี่บัวก็ยังคงพาน้องต้นเดินหาหน่อไม้อีกไม่กลับง่ายๆ 

หลังจากที่ผมใกล้จะตายอยู่ลอมล่อ พี่บัวก็หันมาบอก น้องต้นว่า ปะต้นกลับกัน เดียวจะสาย แม่จะรอ 
น้องต้นรีบพยักหน้าหงึกๆเลย ขืนยังหาอีกน้องต้นคงหลังหักก่อนเดินถึงบ้าน น้องต้นเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จากที่เคยถือตะกร้า ตอนนี้เปลี่ยนมากึ่งดึงกึ่งลากเอาแล้ว ยกไม่ไหว

พี่บัว น้องต้นหิวน้ำในทีสุดก็ทนไม่ได้เกิดมาไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แต่พี่บัวยังทำท่าทางสบาย เดินมาตั้งนานยังไม่มีท่าว่าจะเหนื่อยเลยสักนิด 

เอ่อ พี่ลืมไป นึกว่ามากับตะวัน ไงหนักหรอ นิดเดียวเอง มาพี่ช่วยถือพี่บัวบอกน้องต้นแล้วก็เอาตะกร้าไปถือเองส่งเสียมมาให้น้องต้น 
ตะวัน ถือไหวหรอพี่บัวโคตรหนักเลย”  น้องต้นถามพี่บัว 
แค่นี้อะชิวๆน้องต้น ปกติพี่กลับตะวันจะไปไกลกว่านี้อีก แต่วันนี้ต้องไปเอาของที่พ่อแสงกับตะวันพากันไปชื้อมาจากกรุงเทพก่อน เดียวสายๆเขาก็แจกกันแล้วเดียวเราไปช้าจะได้ของไม่ดี พวกเสื้อผ้านี้ต้องไปเอาตัวสวยๆพี่บัวบอกกับน้องต้น ก่อนน้องต้นจะรีบเดินตามหลังพี่ตะวันให้ทัน ตอนขามากลับตอนขากลับนี้คนละเส้นทาง เลยทำให้ถึงไวกว่าตอนขาไปมากโข แต่ว่าตื่นแต่เช้าแบบนี้อากาศเย็นสบายดีมากๆเลยน้องต้นสักชอบแล้วสิ 

พอมาถึงบ้าน พ่อแสงกับตะวันและแม่ จันทร์ กำลังช่วยกันทำปลาที่ตะวันกับพ่อแสงไปจับมาได้ทำเป็นอาหารกันอยู่เลย น้องต้นก็ไปช่วยได้เยอะเหมือนกัน 

จากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ออกจากบ้านตรงไปที่บ้านพ่อผู้ใหญ่เพื่อไปเอาของแจกของฟรีที่ที่อุตสาห์ลงทุนลงแรงไปชื้อที่กรุงเทพมาแล้วก็ได้น้องต้นมาเป็นของแถมด้วย     -  -
เพียงเวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย น้องต้นก็ช่วยทุกคนเดินถือถุงข้าวของเครื่องใช้กลับบ้าน ตะวันเล่าให้ฟังว่า พ่อกับตะวันช่วยกันเลือกเสื้อผ้าตัวดีๆเอาไว้แล้วแล้วก็ใส่ถุงไว้ตะหากตั้งแต่อยู่กรุงเทพ งานนี้เราเลยได้แต่ของดีๆมาใช้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีแต่ตัวสวยๆดีๆกัน น้องต้นก็เดินไปยิ้มไป เพราะทุกคนอารมดี น้องต้นก็อารมดีด้วย เย็นนี้อาบน้ำเสร็จก็จะได้ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่แล้ว เสื่อผ้าที่พี่บัวเอาให้ใส่เมื่อคืนมันหลวมๆใส่เดินไปเดินมากางเกงมันชอบจะหลุดเรื่อยเลย   - -

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX(34)

ตอนนี้จะเป็นเรื่องราวของน้องต้นเองทั้งหมดเลยนะครับหลังจากที่พลัดจากคุณพ่อมา นานหลายปีจนโตเป็นหนุ่มเลยละ ส่วนคุณพ่อนั้นก็ไม่ต้องห่วงนะครับ อีกหลายปีก็เจอน้องต้นเองหละ เรื่องราวช่วงนี้อาจจะแปลกๆ สำหรับชาว Y ไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ เพราะจะมีตัวละครใหม่ๆเพิ่มเข้ามามากมาย ใครจะสมหวังใครจะเสียใจในความรัก ก็ขอให้ติดตามกันต่อไป แม้นให้เป็นแรงใจคนแต่งบ้างนะครับ 

ปล. อาจมีคำตกเยอะแยะ ก็ขอให้เห็นใจคนแต่งบ้าง เพราะไม่เก่งภาษาไทยเท่าที่ควร เอาเป็นว่า อ่านออกเขียนได้นิดหน่อยก็บุญมากโขแล้วครับ ภาษาไทยเป็นภาษาที่ยากมากมายสำหรับคนแต่ง 

พ่อๆ ดูสิเนี้ยใครละเนี้ยเสียงๆหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะกระโดดลงจากรถและวิ่งไป 4 อั้นมาตั้งนานเกือบตาย อ่า....เสียงของผมครางออกมา ก่อนจะเห็นว่า ผมอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า ที่ยืนรายล้อมผมเอาไว้ ทำให้ผมต้องยิ้มแหะๆ ก่อนจะทำหน้าจ๋อย เพราะเสียงเล็กๆที่ดังมาให้ผมหน้าเสีย 
พ่อครับ ขนมของผมโดนขโมยกินหมดแล้ว น้ำโค๊กด้วย 

ร่างเล็กๆที่ยื้นน้ำตาซึมเหมือนจะร้องให้ ถือถุงขนมเปล่าๆมากมาออกมายืนข้างหน้า ทำเอาผมหน้าเสียไปเลย 
ขอโทษ พอดีน้องต้นหิวข้าวเลยกินหมดเลยผมบอกกับเด็กคนนั้น และทำหน้าสำนึกผิด 

ช่างเถอะ ตะวัน ไว้มีโอกาสพ่อจะพาไปชื้ออีกเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลและอบอุ่นเอ่ยขึ้นก่อนเด็กชายตัวเล็กจะน้ำตาล่วง อีกกี่ปีละถึงจะได้ไป ผมอุตสาห์ชื้อมาตั้งเยอะจะเอาไปฝากพี่ บัวลอยผู้ชายคนนั้นเอามือลูบหัวเด็กชายตัวเล็ก อืม คงประมาณเท่าๆผมนี้แหละมัง ก่อนชาวบ้านจะขนของลงจารถ ทุกคนช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง 
ไปไงมาไงละหนู ถึงมากับรถขนของได้มีผู้เฒ่าคนหนึ่งมาถามน้องน้องต้นก็เล่าให้ฟัง ว่าทำมัย ถึงติดมากับรถขนของได้ 
เอ่อ โชคดีแล้วที่ไม่โดนจับตัวไป เอาเถอะมาอยู่ด้วยกันที่หมู่บ้านนี้แหละ รับรองปลอดภัยพ่อเฒ่าคนนั้นบอกกับน้องต้น น้องต้นก็ตอบตกลงไปเบาๆว่า ครับ
แล้วรถขนของก็วิ่งจากไปปล่อยให้น้องต้นอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า 
ไอ้แสง มึงพาเด็กมามึงก็พามันไปเลี้ยงละกัน ลูกมึงก็มีสองคนเอาไปอีกหนึ่งเป็นสามเลยไปเสียงผู้เฒ่าคนนั้นบอกกับพ่อของตะวัน 
อ่าวพ่อใหญ่ ทำมัยไม่ให้มันไปกลับรถขนของละเสียงของพ่อตะวันเอ่ยบอกพ่อเฒ่า 
เอ่อวะข้าก็ลืม เองก็เอามันไปเลียงเถอะถือว่าทำบุญสงสารเด็กตาดำๆ หรือเองจะไปส่งมันในเมืองวะพ่อผู้ใหญ่พูด 
เอ่อ ไปนะไปได้แต่ขากลับนี้สิจะให้ผมกลับยังไงเดียวน้ำหลากมาก็กลับเข้าหมู่บ้านไม่ได้ แล้วนาข้าวนาปลาใครจะหาเลียงลูกเลียงเมียฉันละผู้ใหญ่ กว่าจะพาเดินไปถึงในเมือง กลัวเด็กมันตายกลางทางก่อนนะสิ 

เอ่อข้าก็ว่างั้นแหละมันดูอ่อนแอ้นเหมือนเด็กผู้หญิงเลย ไปๆ ของพวกนี้นะพรุ่งนี้ก็ให้ชาวบ้านมาแบ่งเอาวันนี้กลับกันไปก่อนค่ำมืดแล้วไปกินขาวกินปลากันเสียงพ่อเฒ่าพูดจบทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปที่บ้านใครบ้านมัน 

ปะลูกต้นไปบ้านพ่อกัน ตะวันพาน้องกลับบ้านพ่อของตะวันพูด และพาผมกับตะวันเดินกลับบ้าน ที่นี้ตอนกลางคืนไม่มีไฟฟ้าใช้งานเลย บ้านแต่ละหลังจุดตะเกียง จุดใต้กันหมด 
พ่อแสง ที่นี้ที่ไหนน้องต้นอยากกลับบ้านน้องต้นบอกกลับพ่อแสงไป ที่นี้มันน่ากลัวมากๆเลยมืดไปหมด 
อืม คงกลับยากละนะ ที่นี้อะ หมู่บ้านดงมะตูม แขวง สะหวันนะเขต ประเทศลาวพ่อแสงบอกน้องต้น 
แล้วไกลจากบ้านน้องต้นเยอะมัย น้องต้นจำได้ขึ้นรถที่ปั้มน้ำมันอะไรสักที่ผมบอกพ่อแสงพลางเดินจับมือพ่อไป เอ่อสุดๆ ไม่รู้จะไปยังไง พ่อกับตะวันไปที่กรุงเทพมาไปชื้อของมาเยอะแยะขนกลับมาที่นี้ พอดีมีคนรู้จักเขาพาไปแล้วก็ชื้อของมาให้พ่อแม่พี่น้องชาวเอ้าเอาไว้ใช้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปกรุงเทพอีกทีตอนไหน ไปแค่รอบนี้รอบเดียวก็ขนเงินไปหมดหมู่บ้านแล้วพ่อแสงพูดแล้วก็หัวเราะ น้องต้นเลยล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเอาเงินมให้พ่อแสง น้องต้นมีเงินนะ นี้ไง กลับบ้านได้มัยน้องต้นบอกพ่อแสง พ่อแสงรับเงินไปดูก่อนจะถอนหายใจ แล้วบอกน้องต้นว่า เงินมากมายขนาดนี้ แต่ไม่มีประโยชน์ในหมู่บ้านที่ห่างไกลแบบนี้หรอกลูก เก็บเอาไว้นะ สักวันหนูอาจต้องใช้มันเดินทางกลับบ้าน น้องต้นเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามพ่อแสงไปเงียบๆไม่ได้พูดอะไรอีก 
ปะขึ้นบ้านไปกินข้าวกินปลากัน จะได้เข้านอนพ่อแสงบอกน้องต้นกับตะวัน ยังไม่ทันจะได้ขึ้นบ้านเลย ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งลงมาจากบ้าน ที่น้องต้นมองยังไงมันก็เป็นกระท่อมที่เคยเห็นในหนังสือเรียนอยู่ดี ไม่ใช่บ้านสักหน่อย พ่อ ตะวันกลับมาแล้ว แม่ๆพ่อกลับมาแล้ว ไหนๆขนมของฝากพี่ตะวันเด็กผู้ชายคนนั้นเอ่ยกับตะวันเด็กชายตัวเล็ก ที่พ่อแสงบอกว่าเป็นพี่น้องต้น 
อยู่ในท้องมันหมดแล้วตะวันพูดแล้วชี้มาที่ผม 
เอ้ยกินหมดเลยหรอไม่เก็บไว้ให้กินมังละ แล้วนี้มึงเป็นใครอะมากับพ่อกับน้องกูได้ไง
ผมได้แต่เงียบไม่รู้จะตอบยังไง พ่อแสงมาจับมือผมและบอกทุกคนขึ้นบ้านแล้วเล่าเรื่องของผมให้ทุกคนฟัง 
ดีจังแม่อยากได้ลูกชายน่ารักๆแบบนี้ตั้งนานแล้ว ชื่อน้องต้นหรอลูกผู้หญิงที่ท่าทางใจดีเอ่ยกับน้องต้น น้องต้นก็พยักหน้าตอบ แต่กับอีกสองคนนี้สิ จ้องผมแขม็งเลย 
แล้วน้องจะอยู่ได้หรอพ่อ ท่าทางเป็นลูกคนรวยนะดูชุดที่ใส่สิ ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้ใส่แบบนี้เลยอะ 
พี่บัวลอยบอก  กับทุกคนพลางลูบคำๆชุดนักเรียนของน้องต้นเหมือนอยากได้ 
คืนนั้นพี่บัวลอยพาน้องต้นไปอาบน้ำที่หนองน้ำ ไม่มีห้องน้ำเลย แก้ผ้าอาบอีก ผ้าเช็ดตัวมีเพียงผ้าขาวม้าตัวเดียวที่ขาดๆ แต่น้องต้นก็อาบน้ำเสร็จไม่มีสบู่ด้วย อาบน้ำเปล่าๆ 
ปะๆ มาอาบคนเดียวก็ไม่ได้ ลำบากกูอีกพี่บัวลอยบอกกับน้องต้น และพาเดินกลับบ้าน 
ใส่ชุดนี้ไม่เหมาะกับมึงเลยวะต้น ตัวมึงขาวๆใส่เสื้อดำๆของกูมันดูตัดกันแปลกๆวะ
พี่บัวลอยบอกกับน้องต้น แต่คุณพ่อแสงบอกว่า ไม่นานเกินรอก็ตัวดำเหมือนตะวันกับบัวลอยเองละ ปะนอนได้แล้วพ่อแสงบอก พวกเรา 5 คนนอนเบียดในในกระท่อมหลังเล็กๆ แต่ทุกคนเรียกมันว่าบ้าน 

พ่อเล่านิทานหน่อยตะวันอยากฟังตะวันบอกพ่อแสง บัวก็อยากฟังพ่อ น้องต้นมันก็คงอยากฟัง เอ่ยต้นมึงเคยฟังนิทานก่อนนอนปะพ่อกูเล่าเก่งนะมึงอยากฟังมัยพี่บัวลอยถามผม ผมก็พยักหน้าให้ ก่อนที่พ่อแสงจะเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง เรื่องอะไรน้องต้นก็ไม่รู้ คืนนั้นน้องต้นนอนหลับไปด้วยความเพลีย แต่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกเหมือนบางสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของน้องต้นกำลังได้รับการเติมเต็มจากที่นี้ ที่ๆน้องต้นนอนหลับได้สนิทใจเป็นครั้งแรกในชีวิตของน้องต้นเลย

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX(33)

คืนหนึ่งน้องต้นรู้สึกตัวตอนดึก ในห้องที่มีแต่ความเงียบและแสงสว่างจากหน้าจอคอมของคุณพ่อเปิดทิ้งเอาไว้ แสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์ในห้องนอนเล็กๆมันเพียงพอที่จะทำให้น้องต้นมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในห้องนอนได้อย่างชัดเจน แต่ภายในห้องนอนนั้นมีเพียงน้องต้นคนเดียว ไม่มีแม้แต่เงาของคุณพ่อ  

นานหลายชั่วโมงที่น้องต้นนั่งรอคุณพ่อ แต่คุณพ่อก็ไม่ยอมกลับเข้ามา ทำให้น้องต้นต้องออกไปตามหา กลัวว่าคุณพ่อจะเป็นอะไรไป ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนออก ภาพตรงหน้า ก็ทำให้น้องต้นซ็อก ตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้ว  ก็คุณพ่อ กับใครอีกคนที่น้องต้นคุ้นเคย กำลังแก้ผ้าเล่นชักเย่อกันอยู่บนโซฟา  คุณพ่อกับพี่วุช สองคนที่กอดกันกลม ไม่มีใครหันมาสนใจน้องต้นเลย หัวใจน้องต้นเต้นตุบๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก่อนที่ประตูห้องนอนจะปิดลงและน้องต้นกลับมานอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม  น้ำตาไหลออกมาปวดหัวใจแปลกๆชอบกล ก่อนที่จะหลับไป 


หลังจากวันนี้ น้องต้น ไม่ไปเล่นเกมที่ร้านพี่วุชอีกเลย แต่น้องต้นไปเล่นอีกร้านหนึ่ง ที่อยู่คนละฝากของอำเภอ และน้องต้นก็ไม่เคยได้ทำอะไรกับคุณพ่อสองคนอีกเลย เพราะคุณพ่อไม่ค่อยว่าง คุณพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ ทุกครั้งที่น้องต้นแกล้งหลับคุณพ่อก็จะหายออกไปจากบ้านและกลับมาเกือบสว่างแทบทุกวัน น้องต้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกลับคุณพ่อ คุณพ่อที่ยังใจดี กับน้องต้นเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่กลับปล่อยให้น้องต้นนอนเหงาคนเดียวแทบทุกคืน 

ในตอนดึกวันหนึ่ง ที่น้องต้นตื่นขึ้นมาและไม่พบกับคุณพ่ออีกตามเคย มันว่างจัดน้องต้นเลยเปิดคอมเล่น เปิดเล่นเกมไผ่  ไปตามเรื่องตามราว ก็มีคนทักเข้ามาหาคุณพ่อทาง MSN หลังจากที่ถามกันไปมาไม่กี่คำ เขาก็จากไป 
ตอนแรกที่ทักมาเหมือนกำลังจะโกรธคุณพ่อมากมาย พอน้องต้นคุยด้วยก็หายโกรธ ยิ้มผ่านกล้องให้น้องต้นตลอดเลย หลังจากที่พี่เขาจากไปน้องต้นก็เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรกำลังจะเข้านอนเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น 
โหล หวัดดีครับเสียงน้องต้นตอบรับสาย แล้วก็ได้รู้ว่าพี่คนนั้นโทรมาหา ได้ยินแต่เสียงพี่เขาหวัดดีกลับมา และบอกน้องต้นว่าโทรเข้ามาเช็คว่าน้องต้นอยู่บ้านจริงรึเปล่า จากนั้นก็มีเสียงพี่เขาหัวเราะและวางสายไป น้องต้นก็งง ก่อนจะวางสายและกลับไปนอน 

วันนี้น้องต้นกำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ ก็มีเสียงคนประกาศให้น้องต้นไปพบผู้ปกครองที่ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งๆที่น้องต้นกำลังเรียนหนังสืออยู่เลย กำลังจะเดินไปถึงกลับมีคนมาฉุดน้องต้นเข้ารถตู้ และก็ขับออกจากโรงเรียนไป น้องต้นตกใจมาก กำลังจะร้องก็โดนมัดมือและ ปิดปากด้วยเทปกาว ได้แต่ร้องอู้อี้ๆ ไปตลอดทาง มองดูสองข้างถนนที่ห่างจากบ้านน้องต้นไกลออกมาเรื่อยๆ น้ำตาไหลออกมาจากแก้ม แต่ไม่มีเสียงร้องหลุดรอดออกมาจากปากน้องต้นเลย 

นานเท่าไรไม่รู้ที่ทนนั่งรถผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า จนปวดฉี่แทบจะราด ดิ้นแล้วดิ้นอีกก็ไม่มีใครสนใจ เลยฉี่รดกางเกงซะเลย  กางเกงเปียกจนรู้สึกว่าคันไปทั้งช่วงล่าง และเริ่มมีกลิ่นตุๆแหละ พวกนั้นถึงหันมาสนใจน้องต้น ก่อนจะพากันรุมตบหัวน้องต้นจนระบมไปหมด  พวกมันมีสามคน ก็ไม่เท่าไหร่หรอก เดียวเจอน้องต้นแล้วจะหนาว หลังจากทนให้มันตบหัวเล่นจนระบมไปหมด พวกนั้นก็หาปั้มน้ำมันจอด และพากันลงไป สองคนเข้าร้านสะดวกชื้อ อีกคนเฝ้าน้องต้นที่รถ น้องต้นดิ้นทั้งถีบรถ ปีนออกจากรถ จนมันมาตะคลุบน้องต้นเอาไว้ 
เงียบหน่อยเดียวกูก็ฆ่าทิ้งซะนี้เสียงมันขู่ น้องต้นก็พยายามที่จะพูดก็มีเพียงเสียงอู้อี้ๆ ดังออกมา สุดท้ายมันมาดึงผ้าเทปที่ปิดปากน้องต้นออก น้องต้นถึงได้บอกมันไปว่า 
ปวดขี้จะราดแล้วพูดแค่นี้แหละทำหน้าตาเหมือนกลั้นเอาไว้สุดๆ มันก็มาแก้มันน้องต้นให้และพาน้องต้นวิ่งไปที่ห้องน้ำ และยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำเอาไว้  หารู้ไม่ว่า ทั้งหมดน้องต้นโกหกเท่านั้นเอง น้องต้นปีนผนังห้องน้ำออกมาอีกฝั่งที่เป็นห้องน้ำหญิง โชคดีที่ไม่มีคนเข้าไปในตอนนั้น ก่อนจะวิ่งออกจากห้องน้ำไป เจอรถบรรทุกคนหนึ่งเปิดฝาหลังทิ้งเอาไว้ ไม่ต้องบอกน้องต้นวิ่งเข้าไปหลบข้างในรถบรรทุกคันนั้นเลย  แต่อยู่ดีๆ ประตูมันก็ปิด และรถเคลื่อนตัวออกไป น้องต้นพยายามที่จะตะโกนทั้งทุบทั้งถีบ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นานหลายชั่วโมงที่น้องต้นนั่งยอยู่ภายในตู้คอนแทนเนอร์ ที่บรรทุกของเต็มไปหมด โชคดีที่มันมีพวกอาหารแห้งพวกขนมและน้ำอัดลมอยู่ด้วยไม่งั้นคงหิวตายคารถบรรทุกแน่ๆ ตลอดการเดินทางของน้องต้นที่ยาวนานในหัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้องต้นไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองรู้แต่ว่าคิดถึงบ้านคิดถึงคุณพ่อ และคิดถึงเพื่อนๆ ของน้องต้นทุกคน ภายในตูคอนเทนเนอร์ที่มีแสงสว่างจากหลอดไฟสีแดงส่องสว่างอยู่เพียงสองดวง แต่มากพอที่จะทำให้มองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่ควรจะมองเห็น น้องต้นได้แต่นั่งกอดเขาตัวเองอยู่เพียงลำพัง รอเวลาว่าเมื่อไหร่รถถึงจะหยุด และน้องต้นจะได้ออกไปจากตรงนี้สักที อยากไปหาคุณพ่อ ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะคิดถึงน้องต้นมังรึเปล่า แต่น้องต้นคิดถึงคุณพ่อ มากที่สุดเลยตอนนี้ 
พี่พลค่ะ บริษัทแย่แล้วนะค่ะ พี่เสียงจากปลายสายที่คุ้นเคยเอยออกมาจากน้องสาวของผม 
เรื่องนี้มันแย่มากๆ หลังจากที่ได้ฟังรายละเอียดผมถึงกลับต้องตกตะลึงไปเลยทีเดียว 
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทที่กำลังจะเปิดตัว โดนบริษัทคู่แข่งเปิดตัวตัดหน้าไปทั้งหมดเลย 
สิ้นค้าที่ทางเราสั่งผลิตต้องค้างสะต๊อกเพราะออกจำหน่ายไม่ได้ ผู้ถือหุ้นหลายรายพากันถอนหุ้นออกจากบริษัท 
สถานะภาพตอนนี้ของบริษัทถือว่าเกือบจะล้มทั้งยืนกันเลย  ผมถึงต้องนั่งทำงานดึกดื่นแทบทุกวัน จนไม่มีเวลาจะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ 

พี่จะสืบให้ ไม่ต้องกลัวหรอก รอสักพักค่อยเปิดบริษัทเล็กๆใหม่แล้วนำออกจำหน่ายไม่ต้องใช้ชื่อบริษัทเราส่วนตัวการเรื่องนี้พี่จะจัดการเองนั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับน้องสาวของผมออกไป การจะสืบค้นข้อมูลหาตัวคนร้ายนั้นทำได้ไม่ใช่ง่ายๆ แทบทุกวันผมนั่งทำงานหน้าคอมจนดึก จะมีก็แต่วันเสาร์วันอาทิตย์ที่ไม่ต้องรอให้น้องต้นหลับก่อนเพราะน้องต้นไม่ได้ไปโรงเรียนนอนดึกได้ เอกสารมากมายส่งเข้ามาให้ผมตรวจสอบทางอีเมลล์ จากทางบริษัท ข้อมูลบุคคลที่น่าสงสัย ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง และข้อมูลของบริษัทคู่แข่งที่ขโมยสินค้าของเราไปเปิดตัวก่อน เหนื่อยจนหมดแรง จนทำให้ละเลยหน้าที่ที่ควรจะทำ เพราะถ้าทำก็คงไม่มีแรงไม่มีเวลาจะทำงานแน่ๆ ผมได้แต่ทำตัวตามปกติ ไม่อยากให้น้องต้นสงสัย พอน้องต้นหลับก็แอบมาทำงานต่อจนเกือบสว่างที่จริงสว่างเลยด้วยซ้ำ ต้องปลุกเจ้าตัวเล็กให้ตื่นและไปส่งที่โรงเรียน ก่อนจะกลับมานั้งทำงานต่อสักครู่และนอนพักเอาแรง และตื่นขึ้นมาตรวจเอกสารต่อจนโรงเรียนเลิกก็ไปรับน้องต้นกลับบ้าน ทำกิจกรรมเล็กน้อยก่อนจะพาเข้านอน พอเห็นใบหน้าของลูกที่ผมรักมนก็มีแรงใจในการทำงานขึ้นมามากโขเลย อยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ จะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมมีเวลาให้กลับลูกมากขึ้นกว่านี้

หวัดดี เจ้านาย มีไรเนี้ยโทรมาหาผมได้ คิดถึงผมละชิเสียงปลายสายตอบกลับมา 
นี้วุชอย่าเล่นสิ พี่มีอะไรให้ช่วยหน่อย พูดทางโทรศัพท์ไม่สะดวกเข้ามาหาที่บ้านพี่นะตอนนี้ผมบอกกับลูกน้องไป ที่จริงไม่อยากยุ่งกับมันเท่าไหร่หรอกยุ่งด้วยทีไรเสียเปรียบมันทุกทีแต่คราวนี้จำเป็นต้องใช้มันจริงๆ 
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงรถมอไซต์ก็จอดที่หน้าบ้าน และร่างที่คุ้นตาก็เปิดประตูเข้ามา รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้ 
พี่พล ผมคิดถึงพี่จังผมยังไม่ทันได้พูดอะไรร่างของ วุช ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนผมก็โผเข้ามากอด
ทำให้ผมต้องกอดปลอบใจ อยู่นานทีเดียว 
ได้ยินว่าพี่ได้แฟนใหม่หรอ ไม่เห็นแนะนำให้ผมรู้จักเลยอะ แล้วร้านเกมพี่อะเข้าไปดูบ้างสิ พี่ไม่เคยเข้าไปเลยนะ จนคนอื่นนะคิดว่าผมเป็นเจ้าของร้านไปแล้วนะเสียงตัดพ้อต่อว่ายังตามมาอีก ที่จริงผมก็รักวุชนะ เคยรักมากด้วย แต่ผมทนไม่ได้กับนิสัยเห็นแก่ตัวและหึงหวงของวุชการทำตัวเป็นเจ้าของตัวผมอย่างออกนอกหน้านอกตามากเกินไป ซึ่งตอนนั้น ผมยังเจ้าชู้หาตัวจับยากอยู่เลย ผมเลยทนไม่ได้ที่จะมีคนคอยจับผิดไปเรื่อยๆอย่างนั้น เราเลยเลิกกัน บางทีวุชอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับผมก็ได้ แต่ตอนนี้ผมรักเดียวใจเดียวกับใครบางคนที่มีรอยยิ้มที่สนใสที่ทำให้หัวใจผมว้าวุ้นไปซะทุกอย่าง แถมยังนอนขี้เซาหลับไม่ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ในห้องนอนที่อบอุ่นในห้องนอนของผม ที่จะคอยปกป้องคนรักของผมตอลดไป  

พี่อยากให้วุชช่วย.............................................ได้มัย งานนี้สำคัญมากนะพลาดไม่ได้เด็ดขาดผมบอกสิ่งที่ผมต้องการให้กับวุช ไป หวังพึ่งในฝีมือ แฮ็คเกอร์ตัวยงของวุช หวังว่าฝีมือคงจะไม่ตกละนะ 

งานนี้ไม่หมูนะพี่ พลาดมาจบกันหมดเลยนะเสียงวุชพูดเบาๆ แต่แอบแฝงรอยยิ้มเจ้าเหล์ไว้ภายใน 
พี่รู้ว่ามันเสียงแต่พี่ไม่รู้จะพึ่งใครจริงๆผมพูดเสียงเบาลงไม่อยากให้ใครเข้ามาเสี่ยงไปกับผมด้วยมันรู้สึกผิดจริงๆ 
ผมจะช่วยพี่ก็ได้ แต่ว่าผมขอได้มัยผมคิดถึงพี่คิดถึงทุกส่วนเลยคืนนี้ให้ผมเป็นของพี่นะ ถ้าพี่ยอมผมจะทำให้นั้นคือข้อเสนอ ที่ผมต้องยอมจ่าย คืนนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น ผมคิดถึงรางกายนี้เหมือนกัน แต่ก็ต้องตัดใจเพราะผมไม่ใช่คนเดิมแล้วผมยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่ผมรัก 



พี่พล ผมรู้แล้วละ ว่าใครพี่เข้ามาหาผมที่ร้านสิ ข้อมูลเจ๋งๆเพรียบเลยพี่นั้นคือเสียงที่ผมได้ยินทางโทรศัพท์ก่อนจะรีบไปหา วุช เพื่อที่จะเอาข้อมูลปล่อยให้น้องต้นอยู่บ้านเพียงคนเดียว คืนนั้นผมจำใจต้องค้างที่ร้านเกม เพราะโดนบังคับให้มีอะไรกันกับวุชอีกครั้งก่อนจะได้ข้อมูลที่ต้องการมา ผมบอกแล้วเจอกับวุชทีไรผมเสียเปรียบทุกที 
ในตอนเช้าผมรีบไปส่งน้องต้น ก่อนจะรีบโทรไปหาน้องสาวที่กรุงเทพและส่งข้อมูลให้ แต่ ข่าวที่ได้รับทำเอาผม ล้มทั้งยืน คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาวน้องชายและหลานตัวเล็กน้องพลับ นั่งรถไปที่บริษัทเพื่อไปเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นร่ายใหญ่ที่กำลังจะขอถอนหุ้นจากบริษัท แต่กลับโดนรถบรรทุก 18 ล้อ ประสานงานเข้าระหว่างทาง และทุกคนก็เสียชีวิตทันที ผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ พอตั้งตัวได้ ภาพของเด็กชายตัวเล็กที่ผมนอนกอดทุกวันก็แวบเข้ามาในหัว ผมฝืนร่างกายตัวเองเพื่อที่จะไปรับลูก แต่น้องต้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากโรงเรียนที่น้องต้นเรียนอยู่ นั่นทำให้ผมมั่นใจว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอนที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม 
ยังไม่ทันที่ผม จะได้ตัดสินใจอะไร ขณะที่กำลังเดินวนไปวนมาที่โรงเรียนของน้องต้น เสียงปืนก็ดังขึ้นมันดังก้องไปทั้งโสตประสาทของผม ก่อนที่ร่างของผมจะทรุดลงกลับพื้น ภาพที่มองเห็นมันเลือนรางภาพของรถตู้สีดำที่ขับผ่านออกไป ก่อนที่ผมจะแน่นิ่งปิดเปลือกตาลงและทุกอย่างก็มืดสนิท ...

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX(32)

คือผม จะบอกว่า ตั้งแต่ตอนนี้ไปน้องต้นจะเริ่มโตแล้วนะครับ  เด๋ยวพออ่านๆไป แล้ว คนเขียนเขาจนวนกลับมาตอนน้องต้นยังตัวเล็กนะครับ   ผมเลยต้องมาทำความเข้าใจไว้ก่อนนะครับ

หลังจากวันนั้น ที่น้องต้นเลิกเป็นแฟนกับพี่ต๊ะ พี่ต๊ะก็หายไปเลย น้องต้นเจอพี่ต๊ะบ่อยๆ แต่พี่ต๊ะกับชอบเดินหนีน้องต้นไม่ยอมเข้ามาเล่นด้วยเลย จนน้องต้นอดที่จะคิดถึงพี่ต๊ะ
ไม่ได้ น้องต้นว่ากำลังอยากขอเป็นแฟนพี่ต๊ะอยู่เลยตอนนี้พอไม่เป็นแฟนกัน พี่ต๊ะไม่เลี้ยงขนมน้องต้นเลย แม้จะโดนพี่ต๊ะลากไปลากมาก็ยอมละ อยากมีคนเลี้ยงขนม
ผ่านมานานเท่าไหรไม่รู้ เพราะน้องต้นปิดเทอม แล้วก้ไม่ได้ไปโรงเรียน วันๆเล่นอยู่แต่กับคุรพ่อ สองคน ที่บ้าน แทบไม่ได้ไปไหนเลย จนตอนนี้เปิดเทอมแล้ว แล้วพี่ต๊ะ
ก้หายไปจากที่โรงเรียน น้องต้นไม่เจอพี่ต๊ะอีกเลย กว่าจะรู้ว่าพี่ต๊ะจบ ป6 ไปแล้วก็นานหลายวัน ก็นะตอนนี้น้องต้นก็ ป.5แล้วนี้ โตขึ้นกว่าเดิมตั้งปีหนึ่ง ได้ย้ายห้องเรียนด้วย
แต่พอไม่เจอพี่ต๊ะน้องต้นก็คิดถึงมากๆเลย อยากเห็นพี่ต๊ะ จะให้พี่ต๊ะเลี้ยงขนม พอคิดได้ดังนั้นน้องต้นเลยชวนเพื่อนๆอีกสามคน  ไปเป็นเพื่อน พวกเราพากันปีนออกไปทางช่อง
ลับของโรงเรียนที่มีแต่เด็กๆรู้ ก่อนจะปีนกำแพงออกมาจากโรงเรียนได้ แล้วเพื่อนๆก็พาน้องต้นเดินทางไปยังโรงเรียนของพี่ต๊ะ ไกลพอดู เพราะนั่งรถตั้งนานกว่าจะถึง
โห น่าอิจฉาโรงเรียนใหญ่จัง แล้วน้องต้นจะหาเจอมัยละเนี้ย พวกเราสามคนเดินเข้าไปในโรงเรียนพี่ต๊ะเดินจนขาลากก็ไม่เจอพี่ต๊ะ ก่อนจะเดินคอตกออกมาจากโรงเรียน
ของพี่ต๊ะ มันใหญ่เกินไป ขนาดโรงเรียนน้องต้นเล็กๆเองพี่ต๊ะยังหลบน้องต้นจนหาไม่เจอเลย อืมช่างเถอะ พวกเราเดินมาเรื่อยๆตามถนนผ่านร้านค้าต่างๆ
ก่อนเพื่อนมันจะชวนไปเล่นเกมก่อนกลับโรงเรียน เพราะอีกหลายชั่วโมงถึงจะเลิกเรียน เป็นครั้งแรกที่น้องต้นได้เดินเข้าไปในร้านเกม เสียงเกมจากจอคอมพิวเตอร์ดังลั่น
จนน้องต้นตื่นเต้นไปหมด เพื่อนๆพามานั่งเล่นเกมกันคนละเครื่องชั่วโมงละ 20 บาท น้องต้นเหงือตก มีตังค์30 บาท เล่นได้ชั่วโมงเดียว อีก 10 บาทค่ารถกลับ
โรงเรียน เพื่อนมันไปชื้อคูปองมาให้ และเติมเวลาให้ จากนั้นมันก็สอนน้องต้นเล่น เกมอะไรไม่รู้ถือปีนไล่ยิ่งกัน "ปังๆๆ" เสียงปืนยิ่งแต่ละที น้องต้นตกใจหัวใจแทบวายตาย
ฝืนเล่นจนจบ ก่อนจะมานั่งหอบ ใจเต้นตุ๊บๆ โหยตื่นเต้นจนมือสั่นเลย สนุกจริงๆ เพื่อนๆของน้องต้นเล่นต่ออีกคนละชั่วโมง น้องต้นเลยนั่งรอ ลุ้นเพื่อนไปด้วยสนุกว่าเล่นเองอีก
พอเพื่อนมันโดนยิงน้องต้นก็หัวเราะ นั่งไปนั่งมาปวด ฉี่ อย่างแรง จนน้องต้นต้องไปสะกิดเพื่อนให้พาไปห้องน้ำ แต่เพื่อนมันไม่สนใจน้องต้นเลยเล่นเกมอย่างเดียว
น้องต้นหันซ้ายหันขวาเพื่อหาห้องน้ำแต่ก้ไม่เจอ ปวดจนฉี่จะราดแล้ว แล้วอยู่ก็มีคนเดินมาทักน้องต้น
"ไง ไม่เล่นหรอ นั่งดูเพื่อนเล่นไม่สนุกนะ" พี่ชายคนนั้นบอกน้องต้น น้องต้นหันไปมอง อ่า
"พี่ครับ พาน้องต้นไปห้องน้ำหน่อย ปวดฉี่" น้องต้นบอกพี่เขา พี่เขาทำหน้าแปลกใจก่อนจะพาน้องต้นไปเข้าห้องน้ำ พอไปถึงน้องต้นก็รูดซิบกางเกง ออกฉี่ใส่โถฉี่เลย
พี่เขาก็ยืนยิ้มมองดูน้องต้นฉี่อยู่ใกล้ๆ "อ่า "เสียงน้องต้นครางออกมาเบาๆโล่งไปหมดทั้งตัวเลย เกือบราดใส่กางเกง
น้องต้นหันมายิ้มให้พี่เขา ก่อนจะพูดว่า "ขอบคุณครับ" ไปให้พี่ชายแปลกหน้า พี่เขาก็บอกไม่เป็นไร ก่อนจะพาน้องต้นกลับเข้าไปข้างในร้าน
น้องต้นนั่งดูเพื่อนเล่นเกม แล้วพี่คนนั้นก็เอาน้ำอัดลมมาให้น้องต้นกิน น้องต้นยกมือไหวก่อนจะรับมาดืม แล้วพี่เขาก็ชวนน้องต้นไปเล่นคอมที่โต๊ะอีกตัวที่พี่เขาเล่นอยู่ก่อน
"พี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย น้องต้นเพิ่งมาครั้งแรกหรอครับ" พี่ชายแปลกหน้าถามน้องต้น น้องต้นก็พยักหน้าให้ ก่อนจะตอบว่า "ครับ" พี่เขาก็ยิ้มมาให้
"พี่ชื่อ พี่วุช นะ เนี้ยพี่เล่นที่ร้านนี้ทุกวันเลย น้องต้นมาเล่นบ่อยๆสิพี่เลี้ยงค่าชัวโมงเกม อยากเล่นฟรีป๊ะ " พี่เขาถามน้องต้น น้องต้นยิ้มให้ พี่วุช
"เลี้ยงน้องต้นจริงๆนะ " น้องต้นหันไปถามพี่วุช ด้วยความดีใจ
"อืม จริงๆ เล่นเกมอะไรละมาพี่สอน" พี่วุชอุ้มน้องต้นขึ้น ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้และให้นั้งต้นนั่งตัก พี่วุช นั่งไม่ค่อยถนัด แต่พี่วุชสอนน้องต้นเล่นเกม ออดิชั่น เต้นไปเต้นมา
ฟังเพลงสนุกดี แล้วก็สอนน้องต้นเล่นเกม ปังย่า ตีกล๊อฟ ก็สนุกดี น้องต้นเล่นเพลิน จนไม่รู้เลยว่าพี่วุชแอบจับจู๋น้องต้นตอนกำลังเล่นเกม แล้วแอบหอมแก้มน้องต้นด้วย
จนเพื่อนมันมาชวนกลับ น้องต้นก็เลย ลาพี่วุชกลับ พี่เขายังเอาคูปองชั่วโมงเกมของพี่เขาให้น้องต้นอีก สามใบ บอกว่าเผื่อพรุ่งนี้ไม่เจอพี่เขาน้องต้นจะได้เล่นได้
น้องต้นดีใจสุดๆโหตั้งสามใบ ก่อนจะขึ้นรถกลับโรงเรียน สุดท้ายน้องต้นก้ไม่ได้เจอพี่ต๊ะเลยวันนี้ แต่ได้คูปองเล่นเกมมา สาม ใบ ผ่านมาหลายวันน้องต้นก็ยังไม่ได้ไปเล่น
เกมที่ร้านเกมอีกเลย จนมาถึงวันเสาร์ คุณพ่อก็นอนตื่นสาย น้องต้นก็ไม่มีอะไรทำ เลยปลุกคุณพ่อบอกว่าจะไปเล่นกับเพื่อน คุรพ่อ ก็ตกลงให้น้องต้นไปได้
แล้วน้องต้นก็ปั่นจักรยานไป ไกลพอดูเกือบ 5 กิโล จนมาถึงร้านเกม น้องต้นรีบไปล๊อกอินเครื่องเล่นเกมเลย แต่ มันเข้าไม่ได้ น้องต้นเข้าเกมไม่ได้ มันถามหารหัสผ่าน
อยากเล่นแต่เข้าไม่เป็น แล้ว พี่ วุชก้เดินมากอดคอน้องต้นจากข้างหลัง ก่อนจะหอมแก้มน้องต้น จนน้องต้นหน้าแดงเลย
"ไง ทำมัยไม่เล่นละ" พี่วุชถามน้องต้นก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆน้องต้น "มันเล่นไม่ได้อะ น้องต้นเล่นไม่เป็นลืมแล้ว" น้องต้นบอกพี่ วุช
ก่อนพี่วุช จะชวนน้องต้นไปเล่นที่เค้าเตอร์ ที่พี่วุชเล่นอยู่ และให้น้องต้นเล่นแทน พี่วุชก็ให้น้องต้นนั่งตักพี่วุชอีก น้องต้นเล่นเพลินจนเย็นเลย หิวขาวก็หิว
พี่วุขก็ยังให้น้องต้นนั่งตักสบายกอดเอวน้องต้นหลวมๆ แต่ - - ง่า ทำมัยเจ้าจู๋มันออกมาโชว์ตัวนอกกางเกงละ น้องต้นรีบเก็บมันเข้ากางเกง ก่อนจะขอพี่วุชกลับบ้าน
เพราะมืดแล้ว กลับมาก็เจอคุณพ่อ กำลังตั้งโต๊ะกินข้าว น้องต้นกินไปสองจานเลย แล้วก็โดนคุณพ่อดุ ว่าไม่กลับมากินข้าวเที่ยงมัวแต่เล่นจนเพลิน
วันอาทิตย์ต่อมา น้องต้นไปกินข้าวดูหนังกับคุณพ่อ ชื้อของกลับบ้านจนเต็มรถ จนมืด แล้วน้องต้นก้ไม่ได้ไปเล่นเกมเลย แต่ละวันผ่านไปผ่านไป จนถึงวันศุกร์
น้องต้นดีใจ เพราะวันเสาร์คุรพ่อชอบตื่นสาย ไม่รู้ทำอะไร พอนั้งต้นหลับก็จะแอบไปนั่งหน้าคอมจนดึก แทบทุกวันเสาร์ พรุ่งนี้น้องต้นจะได้ไปเล่นเกม อีกแล้ว
เล่นฟรีไม่เสียตังค์ด้วย มีคนเลี้ยง
พอน้องต้นเปิดประตูเข้าไปในร้านเกม รีบไปหาพี่วุช ก่อนเลย ไม่มีคูปองเล่นเกมนี้ พอพี่วุชเห็นน้องต้นก็ยิ้มมาให้ แล้วให้น้องต้นเล่นแทนพี่วุช
พอน้องต้นนั่งลงปุบพี่วุชก็ลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆปับ แล้ว ก็เอามือรูดชิบกางเกงน้องต้น เลย อ่า น้องต้นพยายามที่จะรูดชิบกับคืน พี่วุชก็มากระชิบ ที่ข้างๆหูน้องต้น
"นะครับ ขอพี่ดูหน่อยแปบเดียวเอง เดียวพี่ชื้อขนมมาให้ นะนะ" พี่วุชบอกน้องต้น จนน้องต้นลังเล ก่อนที่เกมที่น้องต้นชอบจะขึ้นจอเพื่อเตรียมเล่น
น้องต้นเลยให้พี่วุช จับจู๋น้องต้น เพราะน้องต้นไม่มีมือเล่นเกม แต่ "อ่า"  ไม่ไหวแล้ว เล่นไป เสียวไป พี่วุชชักว่าวน้องต้น จนต้องละมือจากเกม มาจับมือพี่วุชเอาไว้
โอ้ย น้ำเกือบออก  "พอแล้ว น้องต้นเจ็บ " น้องต้นบอกพี่วุช แต่พี่วุชยังจะทำต่อ จนน้องต้นลุกขึ้นจะกลับแล้ว พอน้องต้นลุกขึ้น พี่วุชก็ปล่อยมือ แล้วดึงน้องต้นเอาไว้
ก่อนจะถามน้องต้นว่าจะไปไหน "น้องต้นก็บอกว่าจะกลับบ้าน" พี่วุชก็บอกว่า "เล่นต่อเถอะพี่ไม่กวนแล้วครับเดียวไปชื้อขนมมาให้ "
แล้วน้องต้นก็เลยเล่นต่อ จนพี่วุชชื้อขนมมาให้กิน พี่วุชก็ไม่กวนน้องต้นอีกเลย แต่พี่วุชมานั่งเล่น โน๊ตบุคใกล้ๆน้องต้นแล้วเปิดหนัง โป้ให้น้องต้นดู - -
โห ไม่มีกระจิตกระจัยจะเล่นเกมเลยอยากดู ตอนแรกเป็นผู้หญิง กับผู้ชาย พอเอากันน้ำออก ก้มีเด็กผู้ชายกับคนแก่ ออกมาแทนแล้วคนแก่ก้กินจู๋เด็กคนนั้น ก่อนจะเอาจาจู๋
ของตัวเองแทงเข้าไปในก้นของเด็กชาย และน้ำก็แตก โห ไรเนี้ย เหมือนน้องต้นกับคุณพ่อเลย
พอหนังจบ "พี่เขาก็บอกน้องต้นว่า เอ่อ โทษที พี่เปิดผิดเรื่องว่าจะเปิดหนัง ผู้ชายกับผู้หญิงให้ดูดันเปิดหนัง เกย์ ให้น้องต้นดูได้ " พี่เขาพูดแล้วก็ยิ้ม
น้องต้นปวดจู๋ มันเต้นตุบๆอยู่ในกางเกงใน ก่อนจะถามพี่เขาไปว่า "เกย์ คือะไรอะ น้องต้นไม่รู้" พี่เขายิ้มมาให้แต่ไม่ตอบคำถามน้องต้น แต่เอามือมาบีบจู๋น้องต้นที่มัน
แข็งๆอยู่ในกางเกง แล้วถามน้องต้นว่า " น้องต้นอยากทำแบบในหนังมัยพี่วุชถาม"แต่น้องต้นลังเล พี่วุชจังจับจู๋น้องต้น บีบไปมา
"อยากทำมัยพี่อยากลองดูดดู พี่แค่ดูดเฉยๆก็ได้ เดียวพี่ให้ตังค์น้องต้น ร้อยหนึ่งค่าขนม"พี่วุชพูดมา อ่า อยากได้เงิน น้องต้นเลยพยักหน้าเบาๆ
พี่วุชเลยพาน้องต้นขึ้นไปชั้นสองของตึก พอไปถึงห้องน้อง พี่วุชก็ถอดเสื้อผ้าน้องต้นออกหมดเลย เจ้าจู๋น้องต้น มันชี้หน้าด่าพี่วุชอยู่เลย พี่วุชยิ้ม ก่อนจะเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปน้องต้น
เอาไว้และก็กินจู๋น้องต้นเลย พี่วุชกินไป มืออีกข้างก็ลูบตัวน้องต้นไป อีกมือก็จับมือถือ สายๆไปส่ายมา ตามตัวน้องต้น และเอาไปหยุดไว้ที่จู๋น้องต้นที่กำลังโดนดูดอยู่
"อือ อ่าร์" น้องน้นครางออกมาก่อนจะใช้สองมือดันหัวพี่วุชออก เพราะน้องต้นปล่อยน้ำออกมาแล้วแล้วพี่วุชก็กินน้ำน้องต้นออกไปแล้ว พี่วุชดูชะน้องต้นทนไม่ไหว
มันแปลกๆไม่เหมือนคุณพ่อดุดให้ เพราะพี่วุชดูดน้องจนเจ็บแปลกๆ แต่คุณพ่อดุดน้องต้นเสียวอย่างเดียวเพราะคุณพ่อดูดเบาๆแต่พี่วุชดูดค่อนข้างแรง
น้องต้นนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเจ้าจู๋กระตุกไปมา พี่วุชยังเอามมือถือส่องตามตัวน้องต้นไม่ยอมหยุด เหนื่อยมากๆเลยวันนี้
หลังจากพักสักครู่ น้องต้นก็ใส่เสื้อผ้า และตามพี่วุชที่ยิ้นหน้าบานลงมาจากชั้นสอง พี่วุชชื้อขนมมาให้ ก่อนจะให้ตังค์น้องต้นร้อยหนึ่งและให้น้องต้นเล่นเกมต่อ จนเย็นน้องต้น
ก็กลับบ้าน คุณพ่อก็นั่งรอกินข้าวเหมือนทุกวัน แต่ที่ไม่เหมือนทุกวันคือน้องต้นมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นๆ เพราะมีคนให้ตังค์น้องต้นหลายๆคน จนเหลือเก็บ