"นี้
พวกนายเคยได้ยินเรื่องเล่าของตึกร้างตรงหลังโรงเรียนรึเปล่า "
วันหนึ่งน้องต้นได้มีโอกาศ จับกลุ่มคุยกันกับเพื่อนๆ และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของตึกร้างหลังโรงเรียน แน่นอนว่า ลูกผู้ชายอย่างพวกผมต้องสนใจเรื่อง ลึกลับ น่ากลัว และตื่นเต้นแบบนี้กันอยู่แล้ว
"เขาว่า ผีดุไม่ใช่หรอวะ " เสียงเพื่อนอีกคนดึงขึ้น ทำเอาผมขนลุกไปหมดเลย น่ากลัวจริงๆ อยากรู้จัง ผี นี้เป็นตัวยังไง ยังไม่เคยเจอได้ยินแต่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว
"บ้าสิมึง ผีมีที่ไหน มีแต่คนโง่แหละที่บอกว่าผีมีจริง กุไม่เชื่อหรอก" เสียงเพื่อนอีกคน พูดสวนขึ้นมา
แล้วเรื่อง ผีมีจริงรึเปล่า ก็ถูกถกเถียงกันในกลุ่มเพื่อนของน้องต้น น้องต้นไม่ได้เถียงกับเขาหรอก แค่นั่งฟัง ก็ไม่รู้นี้ผีมีจริงรึเปล่า
พวกเราเถียงกันจนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โหย ถ้าน้องต้นไม่นั่งอยู่ตรงกลางพวกมันคงได้โดดตีกันแหละ ไม่ไหว นั่งหลังไม่ดี เสียวหลัง นั่งตรงกลางนี้แหละปลอดภัย
แล้ววันนั้นก็เลิกเรียนไป โดยที่น้องต้นยังไม่รู้เลยว่าผีมีจริงรึเปล่า อยากรู้จริงๆ
"คุณพ่อครับ ถามหน่อยสิ " ผมบอกกับพ่อ ที่กำลังขับรถกลับบ้าน "ว่ามาสิจะถามอะไร " พ่อผมหันมายิ้มให้ ก่อนจะไปสนใจการขับรถต่อ
"คุณพ่อว่า ผีมีจริงเปล่า " ผมถามพ่อ พ่อหันมามองผมและทำหน้าสงสัย
"ก็วันนี้นะ เพื่อนๆเขาเถียงกันว่าผีมีจริงรึเปล่า กลุ่มหนึ่งบอกมีอีกกลุ่มบอกไม่มี น้องต้นเลยไม่รู้จะเชื่อใคร" ผมถามพ่อและรอฟังคำตอบ
"อืม ก็นะ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินแต่เขาพูดว่ามี แต่พ่อก็ยังไม่เคยเห็นเลย " พ่อบอกผม สรุปมีรึไม่มีละเนี้ย
ในตอนเช้าของวันต่อมา เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของน้องต้นมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าไปเห้นผีผู้หญิง ใส่ชุดขาวลอยไปลอยมาอยู่บนตึกร้าง
เรื่องราวที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นเต้นและความกลัวให้ใครหลายๆคน แต่น้องต้นเฉยๆ แค่อยากรู้เองว่ามันเป็นตัวยังไง
"อย่าไปเชื่อมันเลยวะ มันแค่กุเรื่องขึ้นมาเองละกูว่า พวกมึงก็รู้ว่า ไอ้ แชน มันนิสัยยังไง" คำพูดของเพื่อนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องเล่าของเพื่อน ทำให้น้องต้นคิดได้
เอ่อ ใช่ ไอ้แชน มันเคยหลอกน้องต้นด้วยเชื่อไม่ได้ ดังนั้นพวกเด็กผู้ชายในห้องของน้องต้นก็ยังเถียงกันอยู่ดีว่าผีมีจริงหรือไม่มีจริง
ความสนสัยของน้องต้นมีมากมายขึ้นเรื่องๆตามความบอกเล่าของเพื่อนๆ แต่ไม่นานเรื่องนี้ก็เงียบหายไปตามกาลเวลา ตึกร้างที่เห็นก็ยังคงเป็นปริษณาอยู่จนทุกวัน
แต่แล้ววันหนึ่ง ไอ้ นาย เพื่อนคนที่บอกว่าผีไม่มีจริงในโลก ก็วิ่งหน้าตื่นมาโรงเรียนและบอกเล่าเรื่องราวที่น่าขนลุกขนพองให้พวกเพื่อนๆฟัง
"เมื่อคืนกูกำลังเดินกลับบ้าน วะเลยเดินลัดไปทางถนนหน้าตึกร้าง พวกมึงรู้เปล่า เชียแม่ง กูเดินดีๆนะโว้ย จู่ๆก็มีเสียงคนร้อง ให้ช้วย กูก็ตั้งใจฟังนะว่าเป็นเสียงอะไร แต่มันก็เงียบไป กูก็ตัดใจว่า กูคงหูแว่วไปเอง แต่มึงรู้ปะ จู่ๆก็มีเสียงคนร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวด ออกมา กูนี้ขนลุกหมดเลย สาดเกิดมาเพิ่งเคยวิ่งหน้าตั้งแบบเมื่อคืน พูดมากูยังขนลุกเลย" พอมันเล่าจบ เสียงเพื่อนๆก็แย่งกันถามคำถามที่ค้างคาใจ
"มึงเห็นตัวมันเปล่าวะ มันเป็นตัวยังไง"
"ไม่เห็นวะมันมืด แต่เสียงออกมาจากตึกร้างจริงๆนะมึง"
"โหยแบบนี้ผีก็มีจริงดิวะ น่ากลัววะ" เสียงๆหนึ่งดังขึ้น แต่พวกเพื่อนๆหลายๆคนก็ยังไม่ปลักใจเชื่อว่าผีมันจะมีจริง
"เอางี้ปะวะ กูว่า คืนนี้พวกเราไปพิสูจน์กันเลยดีกว่า อยากรู้วะว่าผีมันมีจริงๆมัย ใครจะไปด้วยวะ " เพื่อนๆ พากันยกมือขึ้นพรึบเลย 7 คน
"แล้วมึงอะไอ้ต้น ไปเปล่าวะ " เพื่อนหันมาหาน้องต้น ไม่รู้จะตอบมันยังไงดี อยากไปนะแต่จะไปไงละ กลัวคุณพ่อไม่ยอม
"ไม่รู้อะขอพ่อก่อนพ่อจะให้ไปมัย" ผมตอบเพื่อนๆ ไป แต่สายตาของเพือนที่มองมาเหมือนมันกำลังดูถูกผมเลย
"ปอดหรอวะ กุก็ว่ามันเหมือนกระเทยเลย ไม่กล้าไปก็บอกมาดิ" เสียงไอ้ นายมันพูดกับผม
"กูไม่ได้ปอด แล้วกูก็ไม่ได้เป็นกระเทยด้วย ก็ได้เดียวกูไปด้วย กี่โมงบอกมาเลย " ผมบอกมันไป หงุดหงิดมันแล้วเนี้ย
"ทุ่มหนึ่งเจอกันหน้าโรงเรียน " เสียงไอ้นายบอกเพื่อนๆ ก่อนที่คุณครูจะเดินมาเพื่อเข้าสอนในคาบบ่าย
แล้วน้องต้นจะทำไงดีละทีนี้ ถ้าไม่ไปมันต้องหาว่าน้องต้นเป็นกระเทยแน่ๆเลย แต่ทำไงจะขอคุณพ่อได้ ถ้าบอกคุณพ่อ คุณพ่อต้องไม่ยอมแน่ๆเลย
น้องต้นนั่งเรียนไม่รู้เรื่องเลยมัวแต่คิดจะขอคุณพ่อยังไงดีถึงจะได้ไปกับเพื่อนๆ จนเวลาเลิกเรียน น้องต้นก็คิดไม่ออก
"คุณพ่อครับ "ผมเรียกพ่อเบาๆขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน พ่อหันมายิ้มให้ และถามผมว่าอยากได้อะไร
"พ่อ เย็นนี้น้องต้น ไปทำการบ้านบ้านเพื่อนนะ ได้รึเปล่า ครับ" ผมบอกพ่อไป หัวใจเต้นตุ๊บๆ โหยเต้นเบาๆดิเดียวพ่อได้ยิน
"อ่าว ทำมัยไม่ทำที่บ้านละ ทำไม่ได้เดียวคุณพ่อช่วยทำก้ได้ " คุณพ่อบอกน้องต้นและยิ้มให้
"ก็มันเป็นงานกลุ่มนี้ครับน้องต้นต้องทำกับเพื่อน" น้องต้นบอกพ่อไปพลางก้มหน้าไม่กล้ามองพ่อตรงๆ กลัวพ่อรู้ว่าน้องต้นโกหก
"อืม รู้แล้วครับ ไปบ้านใครละเดียวไปกินข้าวแล้วคุณพ่อมาส่ง แล้วจะให้พ่อไปรับกี่โมงครับ" พ่อหันมายิ้มให้
"หกโมงเย็นครับ พ่อมารับน้องต้นตอน สามทุ่มก็ได้รับที่บ้าน ไอ้นายอะครับ"
"ครับ ปะรีบกลับจะได้กินข้าวแล้วจะได้รีบไปทำให้เสร็จๆ" พ่อบอกและเร่งความเร็วรถขึ้นเพื่อที่จะได้มาส่งน้องต้นทัน
"พ่อจอดตรงนี้แหละนี้บ้านไอ้นาย " ผมบอกพ่อ พ่อจอดรถ และบายๆกับน้องต้น
ผมถอนหายใจ อึดอัดซะมัดเลย ไม่น่าโกหกเลย แต่ศักดิ์ศรี ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ น้องต้นปลุกใจตัวเองและเดินไปรอเพื่อนๆที่หน้าโรงเรียน โชคดีที่บ้านไอ้นายมันอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ไม่งั้นน้องต้นเดินขาลากแน่ๆ แต่ไม่เข้าไปชวนมันหรอก เดียวมันแซวมาอีก จะหาว่าน้องต้น ปอด อีก เดียวคืนนี้คอยดูเลยจะทำให้ดูใครกันแน่ที่ ปอด
วันหนึ่งน้องต้นได้มีโอกาศ จับกลุ่มคุยกันกับเพื่อนๆ และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของตึกร้างหลังโรงเรียน แน่นอนว่า ลูกผู้ชายอย่างพวกผมต้องสนใจเรื่อง ลึกลับ น่ากลัว และตื่นเต้นแบบนี้กันอยู่แล้ว
"เขาว่า ผีดุไม่ใช่หรอวะ " เสียงเพื่อนอีกคนดึงขึ้น ทำเอาผมขนลุกไปหมดเลย น่ากลัวจริงๆ อยากรู้จัง ผี นี้เป็นตัวยังไง ยังไม่เคยเจอได้ยินแต่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว
"บ้าสิมึง ผีมีที่ไหน มีแต่คนโง่แหละที่บอกว่าผีมีจริง กุไม่เชื่อหรอก" เสียงเพื่อนอีกคน พูดสวนขึ้นมา
แล้วเรื่อง ผีมีจริงรึเปล่า ก็ถูกถกเถียงกันในกลุ่มเพื่อนของน้องต้น น้องต้นไม่ได้เถียงกับเขาหรอก แค่นั่งฟัง ก็ไม่รู้นี้ผีมีจริงรึเปล่า
พวกเราเถียงกันจนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โหย ถ้าน้องต้นไม่นั่งอยู่ตรงกลางพวกมันคงได้โดดตีกันแหละ ไม่ไหว นั่งหลังไม่ดี เสียวหลัง นั่งตรงกลางนี้แหละปลอดภัย
แล้ววันนั้นก็เลิกเรียนไป โดยที่น้องต้นยังไม่รู้เลยว่าผีมีจริงรึเปล่า อยากรู้จริงๆ
"คุณพ่อครับ ถามหน่อยสิ " ผมบอกกับพ่อ ที่กำลังขับรถกลับบ้าน "ว่ามาสิจะถามอะไร " พ่อผมหันมายิ้มให้ ก่อนจะไปสนใจการขับรถต่อ
"คุณพ่อว่า ผีมีจริงเปล่า " ผมถามพ่อ พ่อหันมามองผมและทำหน้าสงสัย
"ก็วันนี้นะ เพื่อนๆเขาเถียงกันว่าผีมีจริงรึเปล่า กลุ่มหนึ่งบอกมีอีกกลุ่มบอกไม่มี น้องต้นเลยไม่รู้จะเชื่อใคร" ผมถามพ่อและรอฟังคำตอบ
"อืม ก็นะ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินแต่เขาพูดว่ามี แต่พ่อก็ยังไม่เคยเห็นเลย " พ่อบอกผม สรุปมีรึไม่มีละเนี้ย
ในตอนเช้าของวันต่อมา เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของน้องต้นมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าไปเห้นผีผู้หญิง ใส่ชุดขาวลอยไปลอยมาอยู่บนตึกร้าง
เรื่องราวที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นเต้นและความกลัวให้ใครหลายๆคน แต่น้องต้นเฉยๆ แค่อยากรู้เองว่ามันเป็นตัวยังไง
"อย่าไปเชื่อมันเลยวะ มันแค่กุเรื่องขึ้นมาเองละกูว่า พวกมึงก็รู้ว่า ไอ้ แชน มันนิสัยยังไง" คำพูดของเพื่อนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องเล่าของเพื่อน ทำให้น้องต้นคิดได้
เอ่อ ใช่ ไอ้แชน มันเคยหลอกน้องต้นด้วยเชื่อไม่ได้ ดังนั้นพวกเด็กผู้ชายในห้องของน้องต้นก็ยังเถียงกันอยู่ดีว่าผีมีจริงหรือไม่มีจริง
ความสนสัยของน้องต้นมีมากมายขึ้นเรื่องๆตามความบอกเล่าของเพื่อนๆ แต่ไม่นานเรื่องนี้ก็เงียบหายไปตามกาลเวลา ตึกร้างที่เห็นก็ยังคงเป็นปริษณาอยู่จนทุกวัน
แต่แล้ววันหนึ่ง ไอ้ นาย เพื่อนคนที่บอกว่าผีไม่มีจริงในโลก ก็วิ่งหน้าตื่นมาโรงเรียนและบอกเล่าเรื่องราวที่น่าขนลุกขนพองให้พวกเพื่อนๆฟัง
"เมื่อคืนกูกำลังเดินกลับบ้าน วะเลยเดินลัดไปทางถนนหน้าตึกร้าง พวกมึงรู้เปล่า เชียแม่ง กูเดินดีๆนะโว้ย จู่ๆก็มีเสียงคนร้อง ให้ช้วย กูก็ตั้งใจฟังนะว่าเป็นเสียงอะไร แต่มันก็เงียบไป กูก็ตัดใจว่า กูคงหูแว่วไปเอง แต่มึงรู้ปะ จู่ๆก็มีเสียงคนร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวด ออกมา กูนี้ขนลุกหมดเลย สาดเกิดมาเพิ่งเคยวิ่งหน้าตั้งแบบเมื่อคืน พูดมากูยังขนลุกเลย" พอมันเล่าจบ เสียงเพื่อนๆก็แย่งกันถามคำถามที่ค้างคาใจ
"มึงเห็นตัวมันเปล่าวะ มันเป็นตัวยังไง"
"ไม่เห็นวะมันมืด แต่เสียงออกมาจากตึกร้างจริงๆนะมึง"
"โหยแบบนี้ผีก็มีจริงดิวะ น่ากลัววะ" เสียงๆหนึ่งดังขึ้น แต่พวกเพื่อนๆหลายๆคนก็ยังไม่ปลักใจเชื่อว่าผีมันจะมีจริง
"เอางี้ปะวะ กูว่า คืนนี้พวกเราไปพิสูจน์กันเลยดีกว่า อยากรู้วะว่าผีมันมีจริงๆมัย ใครจะไปด้วยวะ " เพื่อนๆ พากันยกมือขึ้นพรึบเลย 7 คน
"แล้วมึงอะไอ้ต้น ไปเปล่าวะ " เพื่อนหันมาหาน้องต้น ไม่รู้จะตอบมันยังไงดี อยากไปนะแต่จะไปไงละ กลัวคุณพ่อไม่ยอม
"ไม่รู้อะขอพ่อก่อนพ่อจะให้ไปมัย" ผมตอบเพื่อนๆ ไป แต่สายตาของเพือนที่มองมาเหมือนมันกำลังดูถูกผมเลย
"ปอดหรอวะ กุก็ว่ามันเหมือนกระเทยเลย ไม่กล้าไปก็บอกมาดิ" เสียงไอ้ นายมันพูดกับผม
"กูไม่ได้ปอด แล้วกูก็ไม่ได้เป็นกระเทยด้วย ก็ได้เดียวกูไปด้วย กี่โมงบอกมาเลย " ผมบอกมันไป หงุดหงิดมันแล้วเนี้ย
"ทุ่มหนึ่งเจอกันหน้าโรงเรียน " เสียงไอ้นายบอกเพื่อนๆ ก่อนที่คุณครูจะเดินมาเพื่อเข้าสอนในคาบบ่าย
แล้วน้องต้นจะทำไงดีละทีนี้ ถ้าไม่ไปมันต้องหาว่าน้องต้นเป็นกระเทยแน่ๆเลย แต่ทำไงจะขอคุณพ่อได้ ถ้าบอกคุณพ่อ คุณพ่อต้องไม่ยอมแน่ๆเลย
น้องต้นนั่งเรียนไม่รู้เรื่องเลยมัวแต่คิดจะขอคุณพ่อยังไงดีถึงจะได้ไปกับเพื่อนๆ จนเวลาเลิกเรียน น้องต้นก็คิดไม่ออก
"คุณพ่อครับ "ผมเรียกพ่อเบาๆขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน พ่อหันมายิ้มให้ และถามผมว่าอยากได้อะไร
"พ่อ เย็นนี้น้องต้น ไปทำการบ้านบ้านเพื่อนนะ ได้รึเปล่า ครับ" ผมบอกพ่อไป หัวใจเต้นตุ๊บๆ โหยเต้นเบาๆดิเดียวพ่อได้ยิน
"อ่าว ทำมัยไม่ทำที่บ้านละ ทำไม่ได้เดียวคุณพ่อช่วยทำก้ได้ " คุณพ่อบอกน้องต้นและยิ้มให้
"ก็มันเป็นงานกลุ่มนี้ครับน้องต้นต้องทำกับเพื่อน" น้องต้นบอกพ่อไปพลางก้มหน้าไม่กล้ามองพ่อตรงๆ กลัวพ่อรู้ว่าน้องต้นโกหก
"อืม รู้แล้วครับ ไปบ้านใครละเดียวไปกินข้าวแล้วคุณพ่อมาส่ง แล้วจะให้พ่อไปรับกี่โมงครับ" พ่อหันมายิ้มให้
"หกโมงเย็นครับ พ่อมารับน้องต้นตอน สามทุ่มก็ได้รับที่บ้าน ไอ้นายอะครับ"
"ครับ ปะรีบกลับจะได้กินข้าวแล้วจะได้รีบไปทำให้เสร็จๆ" พ่อบอกและเร่งความเร็วรถขึ้นเพื่อที่จะได้มาส่งน้องต้นทัน
"พ่อจอดตรงนี้แหละนี้บ้านไอ้นาย " ผมบอกพ่อ พ่อจอดรถ และบายๆกับน้องต้น
ผมถอนหายใจ อึดอัดซะมัดเลย ไม่น่าโกหกเลย แต่ศักดิ์ศรี ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ น้องต้นปลุกใจตัวเองและเดินไปรอเพื่อนๆที่หน้าโรงเรียน โชคดีที่บ้านไอ้นายมันอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ไม่งั้นน้องต้นเดินขาลากแน่ๆ แต่ไม่เข้าไปชวนมันหรอก เดียวมันแซวมาอีก จะหาว่าน้องต้น ปอด อีก เดียวคืนนี้คอยดูเลยจะทำให้ดูใครกันแน่ที่ ปอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น