วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX (38)

"ท่านประทานค่ะ นี้คือกำหนดการค่ะ"เสียงเลขาสาวสวยของนักธุรกิจใหญ่ในเครือ พิบูลกิจกรุ๊ป มอบกำหนดการให้นายใหญ่ รับไปอ่านดู 
การให้ทุนการศึกษากับเด็กเป็นเรื่องที่ทางบริษัทต้องคืนกำไรสู่สังคมและทำกันมาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ทุกครั้งก็ให้ทุนเด็กไทยกันทุกปี นี้เป็นปีแรกที่ให้
ทุนกับเด็กต่างประเทศ เนื่องจากทางบริษัทกำลังจะเปิดโรงงานผลิตสินค้าในการลงทุนทำธุรกิจในประเทศลาว โรงงานผลิตสินค้าที่มีขนาดใหญ่ 
แต่ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้มเท่าไหรนัก เพราะกระบวนการผลิตก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงมากพอดู และยังมีฝุ่นละอองจากกระบวนการผลิตจำนวนมากอีกด้วย
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดตัวและทำความรู้จักกับชาวบ้านให้รู้และสัทธาในโรงงานที่จะมอบรายได้จำนวนมหาศาสจากค่าแรงที่ชาวบ้านจะได้รับ
ซึ่งทางการลาวได้อนุมัติให้จัดตั้งได้ในทั้งถิ่นที่ธุรกันดารเพื่อพัฒนาท้องถิ่นนั้นให้มีควมเจริญ และที่สำคัญค่าแรงที่แสนถูกและค่าดำเนินการในการก่อสร้าง
ที่ถูกกว่าที่ประเทศไทยนับเกือบพันล้านทำให้ทางบริษัทตัดสินใจที่จะตั้งโรงงานในต่างแดนเป็นครั้งแรก ธุรกิจนำเข้าและส่งออกมากมายที่อยู่ในเครือของบริษัท
มีมากมายและสร้างรายได้ให้ทางบริษัทเป็นจำนวนมาก การก่อตั้งโรงงานในนครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งก่อนๆคือ มีความแค้นซ่อนอยู่ภายในโครงการที่จะก่อสร้าง

ศตรูอีกหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการแก้แค้น และสวยสุขอยู่ที่ฝั่งนี้ กำลังจะได้เจอกับความน่ากลัวของคนๆหนึ่งที่กลายเป็นเทพบุตรซาตาลในคราบนักบุญ 
จากเหตุการที่เกิดขึ้นเมื่อ15ปีก่อน 

"อืม มอบทุนเสร็จ ไปเปิดตัวโรงงาน แล้วจัดเลี้ยงข้าราชการผู้ใหญ่ในท้องถิ่น โอเค งานอย่าให้พลาด ต้องจัดการให้เรียบร้อย ถ้าโรงงานเปิดได้ และมีข้าราชการเป็นพวกพ้อง
เรื่องทุกอย่างก็จะง่าย บังอร อย่าให้พลาดฉันไว้ใจเธอ" สิ้นเสียงผู้เป็นเจ้านายสั่งการเสร็จ เลขาแสนสวยก็กล่าวลาเพื่อไปดำเนินการ 
ความแค้นที่ทำให้เขาพรากจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารัก โชคดีที่ไม่ตายไปเมื่อ 15 ปีก่อน ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสได้แก้แค้น เขาเจ็บเท่าไหรศตรูจะต้องเก็บมากกว่าเป็น 10 เท่า
100 เท่า จัดการถอนลากถอนโคลนให้หมด ใครขวงทางก็เขียทิ้ง ใครยอมเป็นหมาเลียแข้งเลียขาก็เลี้ยงเอาไว้อย่าให้เปลืองข้าวสุก หมดประโยชน์ก็แตะส่งไปให้ไกลหูไกลตา
อย่าให้มาก่อความวุ่นวายได้ในภายหลัง 

กำหนดการแรกคือ การมอบทุนการศึกษา 100 ทุ่นการศึกษาและเป็นทุนต่อเนื่อง ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนเยอะพอสมควรแต่มันก็คุ้มสำหรับการลงทุน
เพราะได้ให้การศึกษาและเมื่อพวกเขาเหล่านั้นจบมาก็จะมาเป็นกำลังสำคัญให้กับบริษัทให้มีความมั่นคงแข็งแรงขึ้นไปอีกกว้าว 

การมอบทุ่นการศึกษาถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูขนาดใหญ่ เท่าที่จะหาได้ในละแวกใกล้เคียงพื้นที่ที่จะก่อตั้งโรงงาน ชายวัยกลางคนยืนยิ้มอยู่กลางเวทีขนาดใหญ่ 
มีแสงแฟสจากกล้องถ่ายรูปจำนวนมากมาส่องแสงวูบวาบไปมา มองดูจนรู้สึกหน้ามีดตามัว เด้กคนแล้วคนเล่าที่เดินขึ้นมาบนเวทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 
บางคนก็สั่นเทาไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้มายืนอยู่หน้าคนใหญ่คนโต ผู้ที่จะมาพัฒนาท้องถิ่นของต้นเองให้เจริญนักธุรกิจชาวไทยที่ชื่อว่า คุณอรรถพล......

ต่อ ไปเด็กชาย อรรถพล....... นักเรียนจากโรงเรียน.........อยู่ชั้น ป.4/1 ขอเชิญขึ้นมารับทุนบนเวทีด้วยครับ

เสียงพิธีกรที่เอ่ยชื่อของ ตัวเองออกมาทำให้ท่านประธานใหญ่รู้สึกหงุดหงิดและขายหน้าอย่างมาก งานใหญ่ขนาดนี้กลับให้ครูบ้านนอกมาเป็นพิธีกรบ้าๆ
เห็นที คงต้องได้ตักเตือนคนดำเนินการในครั้งนี้อย่างหนัก อุตส่าห์บอกแล้วว่าอย่าให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น แล้วนี้มันอะไรกัน ใบหน้าที่เปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัดของเจ้านาย
ทำเอาลูกน้องต่างกลืนน้ำลายแทบจะไม่ลงคอ เมื่อพิธีกรยังเอ่ยชื่อเจ้านายของตัวเองซ้ำอีกรอบ ให้ขายหน้าเล่น กลางผู้คนจำนวนมากบนเวที

"มาแล้วครับ อยู่นี้ครับ" เสียงเล็กๆร้องออกมาจนทำให้ใครหลายๆคนต้องหันไปมอง ร่างเล็กๆที่วิ่งอย่างรีบร้อนไปที่เวทีขนาดใหญ่ ที่อยู่เบื้องหน้า
เสื้อผ้าชุดนักเรียนที่ดูมอซอสร้างความสนใจให้ใครหลายๆคนเพราะ นักเรียนทุกคนที่มารับทุนได้รับการแจกจ่ายชุดนักเรียนใหม่ให้หมดทุกคนแล้วเพื่อใส่
เข้ามาในงานนี้แต่เด็กคนนี้ กลับใส่ชุดนักเรียนเก่าๆ ที่ค่อนข้างจะตัวใหญ่ไปสักหน่อย แต่ดวงหน้าและลอยยิ้มที่ส่งออกมาทำให้อดที่จะชื่นชมในความน่ารักไม่ได้ 

"แฮกๆ"เสียงหอบหายใจของคนตรงหน้าที่เพิ่งจะวิ่งขึ้นมาถึง แล้วคำขอโทษก็เอ่ยตามมาทีหลัง
"ขอโทษครับ พอดีผมท้องเสียเลยไปเข้าห้องน้ำ ทำให้มาสายขอโทษครับ" ร่างเล็กๆเอ่ยออกมาก่อนจะก้มและโค้งตัวลงให้กับผู้ชายตรงหน้า 

แต่อีกคนกับยืนอึ้ง กับภาพที่เห็น ภาพของใครอีกคนที่ซ้อนทับกับอีกคน ภาพของคนที่เขารักมากที่สุดที่หายตัวไป เมื่อ 15 ปีก่อน กับภาพ
ของเด็กคนนี้ ที่เหมือนกันยังกับคนเดียวกันนี้มัน 

สายตาของประธานบริษัทในเครือพิบูลกิจกรุ๊ป มองภาพของเด็กตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะย่อตัวลง อ่านป้ายชื่อ ที่ปักอยู่บนหน้าอกของเด็กชาย 
ที่ปักชื่อของคนที่เขารักมากกว่าสิ่งใด "ต้นตระการ ......" ชื่อและนามสกุล ที่บ่งบอกเอาไว้อยู่แล้วว่าเป็นใคร ทำมัยเขาจะจำไม่ได้ 
สัญลักษณ์ของโรงเรียนที่อยู่บนเสื้อด้วย ทำมัยเขาจะไม่รู้ 

"น้องต้น" เสียงเบาๆที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของท่านประทาน ก่อนที่จะดึงเอาร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้ามากอด หยดน้ำตาไหลอาบแก้ม ท่ามกลาง
เสียงกดชัตเตอร์และแสงแฟสจากกล้องถ่ายรูปยังคงดังระรัวไปทั่ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น