วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อะไรกันว้ามีป๊ะป๋าบ้าSEX(33)

คืนหนึ่งน้องต้นรู้สึกตัวตอนดึก ในห้องที่มีแต่ความเงียบและแสงสว่างจากหน้าจอคอมของคุณพ่อเปิดทิ้งเอาไว้ แสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์ในห้องนอนเล็กๆมันเพียงพอที่จะทำให้น้องต้นมองเห็นความเคลื่อนไหวภายในห้องนอนได้อย่างชัดเจน แต่ภายในห้องนอนนั้นมีเพียงน้องต้นคนเดียว ไม่มีแม้แต่เงาของคุณพ่อ  

นานหลายชั่วโมงที่น้องต้นนั่งรอคุณพ่อ แต่คุณพ่อก็ไม่ยอมกลับเข้ามา ทำให้น้องต้นต้องออกไปตามหา กลัวว่าคุณพ่อจะเป็นอะไรไป ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนออก ภาพตรงหน้า ก็ทำให้น้องต้นซ็อก ตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้ว  ก็คุณพ่อ กับใครอีกคนที่น้องต้นคุ้นเคย กำลังแก้ผ้าเล่นชักเย่อกันอยู่บนโซฟา  คุณพ่อกับพี่วุช สองคนที่กอดกันกลม ไม่มีใครหันมาสนใจน้องต้นเลย หัวใจน้องต้นเต้นตุบๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก่อนที่ประตูห้องนอนจะปิดลงและน้องต้นกลับมานอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม  น้ำตาไหลออกมาปวดหัวใจแปลกๆชอบกล ก่อนที่จะหลับไป 


หลังจากวันนี้ น้องต้น ไม่ไปเล่นเกมที่ร้านพี่วุชอีกเลย แต่น้องต้นไปเล่นอีกร้านหนึ่ง ที่อยู่คนละฝากของอำเภอ และน้องต้นก็ไม่เคยได้ทำอะไรกับคุณพ่อสองคนอีกเลย เพราะคุณพ่อไม่ค่อยว่าง คุณพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ ทุกครั้งที่น้องต้นแกล้งหลับคุณพ่อก็จะหายออกไปจากบ้านและกลับมาเกือบสว่างแทบทุกวัน น้องต้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกลับคุณพ่อ คุณพ่อที่ยังใจดี กับน้องต้นเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่กลับปล่อยให้น้องต้นนอนเหงาคนเดียวแทบทุกคืน 

ในตอนดึกวันหนึ่ง ที่น้องต้นตื่นขึ้นมาและไม่พบกับคุณพ่ออีกตามเคย มันว่างจัดน้องต้นเลยเปิดคอมเล่น เปิดเล่นเกมไผ่  ไปตามเรื่องตามราว ก็มีคนทักเข้ามาหาคุณพ่อทาง MSN หลังจากที่ถามกันไปมาไม่กี่คำ เขาก็จากไป 
ตอนแรกที่ทักมาเหมือนกำลังจะโกรธคุณพ่อมากมาย พอน้องต้นคุยด้วยก็หายโกรธ ยิ้มผ่านกล้องให้น้องต้นตลอดเลย หลังจากที่พี่เขาจากไปน้องต้นก็เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรกำลังจะเข้านอนเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น 
โหล หวัดดีครับเสียงน้องต้นตอบรับสาย แล้วก็ได้รู้ว่าพี่คนนั้นโทรมาหา ได้ยินแต่เสียงพี่เขาหวัดดีกลับมา และบอกน้องต้นว่าโทรเข้ามาเช็คว่าน้องต้นอยู่บ้านจริงรึเปล่า จากนั้นก็มีเสียงพี่เขาหัวเราะและวางสายไป น้องต้นก็งง ก่อนจะวางสายและกลับไปนอน 

วันนี้น้องต้นกำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ ก็มีเสียงคนประกาศให้น้องต้นไปพบผู้ปกครองที่ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งๆที่น้องต้นกำลังเรียนหนังสืออยู่เลย กำลังจะเดินไปถึงกลับมีคนมาฉุดน้องต้นเข้ารถตู้ และก็ขับออกจากโรงเรียนไป น้องต้นตกใจมาก กำลังจะร้องก็โดนมัดมือและ ปิดปากด้วยเทปกาว ได้แต่ร้องอู้อี้ๆ ไปตลอดทาง มองดูสองข้างถนนที่ห่างจากบ้านน้องต้นไกลออกมาเรื่อยๆ น้ำตาไหลออกมาจากแก้ม แต่ไม่มีเสียงร้องหลุดรอดออกมาจากปากน้องต้นเลย 

นานเท่าไรไม่รู้ที่ทนนั่งรถผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า จนปวดฉี่แทบจะราด ดิ้นแล้วดิ้นอีกก็ไม่มีใครสนใจ เลยฉี่รดกางเกงซะเลย  กางเกงเปียกจนรู้สึกว่าคันไปทั้งช่วงล่าง และเริ่มมีกลิ่นตุๆแหละ พวกนั้นถึงหันมาสนใจน้องต้น ก่อนจะพากันรุมตบหัวน้องต้นจนระบมไปหมด  พวกมันมีสามคน ก็ไม่เท่าไหร่หรอก เดียวเจอน้องต้นแล้วจะหนาว หลังจากทนให้มันตบหัวเล่นจนระบมไปหมด พวกนั้นก็หาปั้มน้ำมันจอด และพากันลงไป สองคนเข้าร้านสะดวกชื้อ อีกคนเฝ้าน้องต้นที่รถ น้องต้นดิ้นทั้งถีบรถ ปีนออกจากรถ จนมันมาตะคลุบน้องต้นเอาไว้ 
เงียบหน่อยเดียวกูก็ฆ่าทิ้งซะนี้เสียงมันขู่ น้องต้นก็พยายามที่จะพูดก็มีเพียงเสียงอู้อี้ๆ ดังออกมา สุดท้ายมันมาดึงผ้าเทปที่ปิดปากน้องต้นออก น้องต้นถึงได้บอกมันไปว่า 
ปวดขี้จะราดแล้วพูดแค่นี้แหละทำหน้าตาเหมือนกลั้นเอาไว้สุดๆ มันก็มาแก้มันน้องต้นให้และพาน้องต้นวิ่งไปที่ห้องน้ำ และยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำเอาไว้  หารู้ไม่ว่า ทั้งหมดน้องต้นโกหกเท่านั้นเอง น้องต้นปีนผนังห้องน้ำออกมาอีกฝั่งที่เป็นห้องน้ำหญิง โชคดีที่ไม่มีคนเข้าไปในตอนนั้น ก่อนจะวิ่งออกจากห้องน้ำไป เจอรถบรรทุกคนหนึ่งเปิดฝาหลังทิ้งเอาไว้ ไม่ต้องบอกน้องต้นวิ่งเข้าไปหลบข้างในรถบรรทุกคันนั้นเลย  แต่อยู่ดีๆ ประตูมันก็ปิด และรถเคลื่อนตัวออกไป น้องต้นพยายามที่จะตะโกนทั้งทุบทั้งถีบ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นานหลายชั่วโมงที่น้องต้นนั่งยอยู่ภายในตู้คอนแทนเนอร์ ที่บรรทุกของเต็มไปหมด โชคดีที่มันมีพวกอาหารแห้งพวกขนมและน้ำอัดลมอยู่ด้วยไม่งั้นคงหิวตายคารถบรรทุกแน่ๆ ตลอดการเดินทางของน้องต้นที่ยาวนานในหัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้องต้นไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองรู้แต่ว่าคิดถึงบ้านคิดถึงคุณพ่อ และคิดถึงเพื่อนๆ ของน้องต้นทุกคน ภายในตูคอนเทนเนอร์ที่มีแสงสว่างจากหลอดไฟสีแดงส่องสว่างอยู่เพียงสองดวง แต่มากพอที่จะทำให้มองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่ควรจะมองเห็น น้องต้นได้แต่นั่งกอดเขาตัวเองอยู่เพียงลำพัง รอเวลาว่าเมื่อไหร่รถถึงจะหยุด และน้องต้นจะได้ออกไปจากตรงนี้สักที อยากไปหาคุณพ่อ ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะคิดถึงน้องต้นมังรึเปล่า แต่น้องต้นคิดถึงคุณพ่อ มากที่สุดเลยตอนนี้ 
พี่พลค่ะ บริษัทแย่แล้วนะค่ะ พี่เสียงจากปลายสายที่คุ้นเคยเอยออกมาจากน้องสาวของผม 
เรื่องนี้มันแย่มากๆ หลังจากที่ได้ฟังรายละเอียดผมถึงกลับต้องตกตะลึงไปเลยทีเดียว 
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทที่กำลังจะเปิดตัว โดนบริษัทคู่แข่งเปิดตัวตัดหน้าไปทั้งหมดเลย 
สิ้นค้าที่ทางเราสั่งผลิตต้องค้างสะต๊อกเพราะออกจำหน่ายไม่ได้ ผู้ถือหุ้นหลายรายพากันถอนหุ้นออกจากบริษัท 
สถานะภาพตอนนี้ของบริษัทถือว่าเกือบจะล้มทั้งยืนกันเลย  ผมถึงต้องนั่งทำงานดึกดื่นแทบทุกวัน จนไม่มีเวลาจะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ 

พี่จะสืบให้ ไม่ต้องกลัวหรอก รอสักพักค่อยเปิดบริษัทเล็กๆใหม่แล้วนำออกจำหน่ายไม่ต้องใช้ชื่อบริษัทเราส่วนตัวการเรื่องนี้พี่จะจัดการเองนั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับน้องสาวของผมออกไป การจะสืบค้นข้อมูลหาตัวคนร้ายนั้นทำได้ไม่ใช่ง่ายๆ แทบทุกวันผมนั่งทำงานหน้าคอมจนดึก จะมีก็แต่วันเสาร์วันอาทิตย์ที่ไม่ต้องรอให้น้องต้นหลับก่อนเพราะน้องต้นไม่ได้ไปโรงเรียนนอนดึกได้ เอกสารมากมายส่งเข้ามาให้ผมตรวจสอบทางอีเมลล์ จากทางบริษัท ข้อมูลบุคคลที่น่าสงสัย ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง และข้อมูลของบริษัทคู่แข่งที่ขโมยสินค้าของเราไปเปิดตัวก่อน เหนื่อยจนหมดแรง จนทำให้ละเลยหน้าที่ที่ควรจะทำ เพราะถ้าทำก็คงไม่มีแรงไม่มีเวลาจะทำงานแน่ๆ ผมได้แต่ทำตัวตามปกติ ไม่อยากให้น้องต้นสงสัย พอน้องต้นหลับก็แอบมาทำงานต่อจนเกือบสว่างที่จริงสว่างเลยด้วยซ้ำ ต้องปลุกเจ้าตัวเล็กให้ตื่นและไปส่งที่โรงเรียน ก่อนจะกลับมานั้งทำงานต่อสักครู่และนอนพักเอาแรง และตื่นขึ้นมาตรวจเอกสารต่อจนโรงเรียนเลิกก็ไปรับน้องต้นกลับบ้าน ทำกิจกรรมเล็กน้อยก่อนจะพาเข้านอน พอเห็นใบหน้าของลูกที่ผมรักมนก็มีแรงใจในการทำงานขึ้นมามากโขเลย อยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ จะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมมีเวลาให้กลับลูกมากขึ้นกว่านี้

หวัดดี เจ้านาย มีไรเนี้ยโทรมาหาผมได้ คิดถึงผมละชิเสียงปลายสายตอบกลับมา 
นี้วุชอย่าเล่นสิ พี่มีอะไรให้ช่วยหน่อย พูดทางโทรศัพท์ไม่สะดวกเข้ามาหาที่บ้านพี่นะตอนนี้ผมบอกกับลูกน้องไป ที่จริงไม่อยากยุ่งกับมันเท่าไหร่หรอกยุ่งด้วยทีไรเสียเปรียบมันทุกทีแต่คราวนี้จำเป็นต้องใช้มันจริงๆ 
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงรถมอไซต์ก็จอดที่หน้าบ้าน และร่างที่คุ้นตาก็เปิดประตูเข้ามา รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้ 
พี่พล ผมคิดถึงพี่จังผมยังไม่ทันได้พูดอะไรร่างของ วุช ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนผมก็โผเข้ามากอด
ทำให้ผมต้องกอดปลอบใจ อยู่นานทีเดียว 
ได้ยินว่าพี่ได้แฟนใหม่หรอ ไม่เห็นแนะนำให้ผมรู้จักเลยอะ แล้วร้านเกมพี่อะเข้าไปดูบ้างสิ พี่ไม่เคยเข้าไปเลยนะ จนคนอื่นนะคิดว่าผมเป็นเจ้าของร้านไปแล้วนะเสียงตัดพ้อต่อว่ายังตามมาอีก ที่จริงผมก็รักวุชนะ เคยรักมากด้วย แต่ผมทนไม่ได้กับนิสัยเห็นแก่ตัวและหึงหวงของวุชการทำตัวเป็นเจ้าของตัวผมอย่างออกนอกหน้านอกตามากเกินไป ซึ่งตอนนั้น ผมยังเจ้าชู้หาตัวจับยากอยู่เลย ผมเลยทนไม่ได้ที่จะมีคนคอยจับผิดไปเรื่อยๆอย่างนั้น เราเลยเลิกกัน บางทีวุชอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับผมก็ได้ แต่ตอนนี้ผมรักเดียวใจเดียวกับใครบางคนที่มีรอยยิ้มที่สนใสที่ทำให้หัวใจผมว้าวุ้นไปซะทุกอย่าง แถมยังนอนขี้เซาหลับไม่ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ในห้องนอนที่อบอุ่นในห้องนอนของผม ที่จะคอยปกป้องคนรักของผมตอลดไป  

พี่อยากให้วุชช่วย.............................................ได้มัย งานนี้สำคัญมากนะพลาดไม่ได้เด็ดขาดผมบอกสิ่งที่ผมต้องการให้กับวุช ไป หวังพึ่งในฝีมือ แฮ็คเกอร์ตัวยงของวุช หวังว่าฝีมือคงจะไม่ตกละนะ 

งานนี้ไม่หมูนะพี่ พลาดมาจบกันหมดเลยนะเสียงวุชพูดเบาๆ แต่แอบแฝงรอยยิ้มเจ้าเหล์ไว้ภายใน 
พี่รู้ว่ามันเสียงแต่พี่ไม่รู้จะพึ่งใครจริงๆผมพูดเสียงเบาลงไม่อยากให้ใครเข้ามาเสี่ยงไปกับผมด้วยมันรู้สึกผิดจริงๆ 
ผมจะช่วยพี่ก็ได้ แต่ว่าผมขอได้มัยผมคิดถึงพี่คิดถึงทุกส่วนเลยคืนนี้ให้ผมเป็นของพี่นะ ถ้าพี่ยอมผมจะทำให้นั้นคือข้อเสนอ ที่ผมต้องยอมจ่าย คืนนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น ผมคิดถึงรางกายนี้เหมือนกัน แต่ก็ต้องตัดใจเพราะผมไม่ใช่คนเดิมแล้วผมยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่ผมรัก 



พี่พล ผมรู้แล้วละ ว่าใครพี่เข้ามาหาผมที่ร้านสิ ข้อมูลเจ๋งๆเพรียบเลยพี่นั้นคือเสียงที่ผมได้ยินทางโทรศัพท์ก่อนจะรีบไปหา วุช เพื่อที่จะเอาข้อมูลปล่อยให้น้องต้นอยู่บ้านเพียงคนเดียว คืนนั้นผมจำใจต้องค้างที่ร้านเกม เพราะโดนบังคับให้มีอะไรกันกับวุชอีกครั้งก่อนจะได้ข้อมูลที่ต้องการมา ผมบอกแล้วเจอกับวุชทีไรผมเสียเปรียบทุกที 
ในตอนเช้าผมรีบไปส่งน้องต้น ก่อนจะรีบโทรไปหาน้องสาวที่กรุงเทพและส่งข้อมูลให้ แต่ ข่าวที่ได้รับทำเอาผม ล้มทั้งยืน คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาวน้องชายและหลานตัวเล็กน้องพลับ นั่งรถไปที่บริษัทเพื่อไปเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นร่ายใหญ่ที่กำลังจะขอถอนหุ้นจากบริษัท แต่กลับโดนรถบรรทุก 18 ล้อ ประสานงานเข้าระหว่างทาง และทุกคนก็เสียชีวิตทันที ผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ พอตั้งตัวได้ ภาพของเด็กชายตัวเล็กที่ผมนอนกอดทุกวันก็แวบเข้ามาในหัว ผมฝืนร่างกายตัวเองเพื่อที่จะไปรับลูก แต่น้องต้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากโรงเรียนที่น้องต้นเรียนอยู่ นั่นทำให้ผมมั่นใจว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอนที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม 
ยังไม่ทันที่ผม จะได้ตัดสินใจอะไร ขณะที่กำลังเดินวนไปวนมาที่โรงเรียนของน้องต้น เสียงปืนก็ดังขึ้นมันดังก้องไปทั้งโสตประสาทของผม ก่อนที่ร่างของผมจะทรุดลงกลับพื้น ภาพที่มองเห็นมันเลือนรางภาพของรถตู้สีดำที่ขับผ่านออกไป ก่อนที่ผมจะแน่นิ่งปิดเปลือกตาลงและทุกอย่างก็มืดสนิท ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น