“ต้น ต้น
ต้นๆ ตื่นๆ สายแล้ว” ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดของวันใหม่ที่มองออกไปจากตัวบ้านท้องฟ้ายังมืดมิดอยู่เลย
แต่ก็ยังพอมองเห็นได้จากแสงจันทร์ที่ส่องลงมา เห็นแล้วก็ง่วงนอนอีกรอบ
อยากจะล้มตัวลงนอนให้หลับสบายๆ
แต่ก็ต้องรีบตื่นเมื่อรู้ว่าคนที่มาปลุกน้องต้นให้ตื่นนอนม่ายใช่คุณพ่อ พล
แต่เป็นพี่บัวลูกพ่อแสง
“พี่บัวคนอื่นไปไหนหมด” น้องต้นถามพี่บัวทั้งๆที่ตัวเองยังนั่งหาวนอนอยู่เลยตามันสะลึมสะลือ มีแต่จะหลับอย่างเดียว
“แม่ไปตำข้าว พี่กับตะวันไปทอดแหที่ห้วย ส่วนเราสองคนต้องไปหาหน่อไม้ ปะไปกัน” พี่บัวพูดเสร็จก็ดึงแขนน้องต้นให้ลุกขึ้นและเดินตามลงไปข้างล่าง ก่อนที่น้องต้นจะช่วยพี่บัวถือตะกร้า และเดินตามหลังพี่บัวไปอย่างง่วงๆ
“ต้น ลืมตาดูทางหน่อยสิ เดียวเดินตกคันนาหรอก” พี่บัวหันมาดุน้องต้นที่ เดินไปหลับตาไปทำให้เกือบตกคันนาหลายรอบ สองเท้าเล็กๆของน้องต้นเดินตามพี่บัวไปอย่างไม่ลดละจนมันรู้สึกปวดตุบๆ แต่น้องต้นก็ไม่ได้บ่นให้ใครฟัง น้องต้นก็อดทนเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่หมายที่เป็นป่า ค่อนข้างรก แต่มีทางให้เดินเล็ดลอดเข้าไปเหมือนมีคนเดินผ่านเป็นประจำจนเกิดเป็นทางเดินเล็กๆขึ้น จากนั้นหน่อไม้หน่อแรกจากกอไผ่ที่พี่บัวพาน้องต้นเดินไปเจอก็โดนพี่บัวเอามาใส่ตะกร้า โดยมีน้องต้นยืนมองด้วยความสนใจ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ที่น้องต้นเดินตามพี่บัวหาหน่อไม้ ตอนนี้ตะกร้าเปล่าๆ เริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน้องต้นที่ถืออยู่ปวดแขนไปหมดแล้ว แต่พี่บัวก็ยังคงพาน้องต้นเดินหาหน่อไม้อีกไม่กลับง่ายๆ
หลังจากที่ผมใกล้จะตายอยู่ลอมล่อ พี่บัวก็หันมาบอก น้องต้นว่า “ปะต้นกลับกัน เดียวจะสาย แม่จะรอ”
น้องต้นรีบพยักหน้าหงึกๆเลย ขืนยังหาอีกน้องต้นคงหลังหักก่อนเดินถึงบ้าน น้องต้นเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จากที่เคยถือตะกร้า ตอนนี้เปลี่ยนมากึ่งดึงกึ่งลากเอาแล้ว ยกไม่ไหว
“พี่บัว น้องต้นหิวน้ำ” ในทีสุดก็ทนไม่ได้เกิดมาไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แต่พี่บัวยังทำท่าทางสบาย เดินมาตั้งนานยังไม่มีท่าว่าจะเหนื่อยเลยสักนิด
“เอ่อ พี่ลืมไป นึกว่ามากับตะวัน ไงหนักหรอ นิดเดียวเอง มาพี่ช่วยถือ” พี่บัวบอกน้องต้นแล้วก็เอาตะกร้าไปถือเองส่งเสียมมาให้น้องต้น
“ตะวัน ถือไหวหรอพี่บัวโคตรหนักเลย” น้องต้นถามพี่บัว
“แค่นี้อะชิวๆน้องต้น ปกติพี่กลับตะวันจะไปไกลกว่านี้อีก แต่วันนี้ต้องไปเอาของที่พ่อแสงกับตะวันพากันไปชื้อมาจากกรุงเทพก่อน เดียวสายๆเขาก็แจกกันแล้วเดียวเราไปช้าจะได้ของไม่ดี พวกเสื้อผ้านี้ต้องไปเอาตัวสวยๆ” พี่บัวบอกกับน้องต้น ก่อนน้องต้นจะรีบเดินตามหลังพี่ตะวันให้ทัน ตอนขามากลับตอนขากลับนี้คนละเส้นทาง เลยทำให้ถึงไวกว่าตอนขาไปมากโข แต่ว่าตื่นแต่เช้าแบบนี้อากาศเย็นสบายดีมากๆเลยน้องต้นสักชอบแล้วสิ
พอมาถึงบ้าน พ่อแสงกับตะวันและแม่ จันทร์ กำลังช่วยกันทำปลาที่ตะวันกับพ่อแสงไปจับมาได้ทำเป็นอาหารกันอยู่เลย น้องต้นก็ไปช่วยได้เยอะเหมือนกัน
จากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ออกจากบ้านตรงไปที่บ้านพ่อผู้ใหญ่เพื่อไปเอาของแจกของฟรีที่ที่อุตสาห์ลงทุนลงแรงไปชื้อที่กรุงเทพมาแล้วก็ได้น้องต้นมาเป็นของแถมด้วย - -
เพียงเวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย น้องต้นก็ช่วยทุกคนเดินถือถุงข้าวของเครื่องใช้กลับบ้าน ตะวันเล่าให้ฟังว่า พ่อกับตะวันช่วยกันเลือกเสื้อผ้าตัวดีๆเอาไว้แล้วแล้วก็ใส่ถุงไว้ตะหากตั้งแต่อยู่กรุงเทพ งานนี้เราเลยได้แต่ของดีๆมาใช้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีแต่ตัวสวยๆดีๆกัน น้องต้นก็เดินไปยิ้มไป เพราะทุกคนอารมดี น้องต้นก็อารมดีด้วย เย็นนี้อาบน้ำเสร็จก็จะได้ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่แล้ว เสื่อผ้าที่พี่บัวเอาให้ใส่เมื่อคืนมันหลวมๆใส่เดินไปเดินมากางเกงมันชอบจะหลุดเรื่อยเลย - -
“พี่บัวคนอื่นไปไหนหมด” น้องต้นถามพี่บัวทั้งๆที่ตัวเองยังนั่งหาวนอนอยู่เลยตามันสะลึมสะลือ มีแต่จะหลับอย่างเดียว
“แม่ไปตำข้าว พี่กับตะวันไปทอดแหที่ห้วย ส่วนเราสองคนต้องไปหาหน่อไม้ ปะไปกัน” พี่บัวพูดเสร็จก็ดึงแขนน้องต้นให้ลุกขึ้นและเดินตามลงไปข้างล่าง ก่อนที่น้องต้นจะช่วยพี่บัวถือตะกร้า และเดินตามหลังพี่บัวไปอย่างง่วงๆ
“ต้น ลืมตาดูทางหน่อยสิ เดียวเดินตกคันนาหรอก” พี่บัวหันมาดุน้องต้นที่ เดินไปหลับตาไปทำให้เกือบตกคันนาหลายรอบ สองเท้าเล็กๆของน้องต้นเดินตามพี่บัวไปอย่างไม่ลดละจนมันรู้สึกปวดตุบๆ แต่น้องต้นก็ไม่ได้บ่นให้ใครฟัง น้องต้นก็อดทนเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่หมายที่เป็นป่า ค่อนข้างรก แต่มีทางให้เดินเล็ดลอดเข้าไปเหมือนมีคนเดินผ่านเป็นประจำจนเกิดเป็นทางเดินเล็กๆขึ้น จากนั้นหน่อไม้หน่อแรกจากกอไผ่ที่พี่บัวพาน้องต้นเดินไปเจอก็โดนพี่บัวเอามาใส่ตะกร้า โดยมีน้องต้นยืนมองด้วยความสนใจ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ที่น้องต้นเดินตามพี่บัวหาหน่อไม้ ตอนนี้ตะกร้าเปล่าๆ เริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน้องต้นที่ถืออยู่ปวดแขนไปหมดแล้ว แต่พี่บัวก็ยังคงพาน้องต้นเดินหาหน่อไม้อีกไม่กลับง่ายๆ
หลังจากที่ผมใกล้จะตายอยู่ลอมล่อ พี่บัวก็หันมาบอก น้องต้นว่า “ปะต้นกลับกัน เดียวจะสาย แม่จะรอ”
น้องต้นรีบพยักหน้าหงึกๆเลย ขืนยังหาอีกน้องต้นคงหลังหักก่อนเดินถึงบ้าน น้องต้นเดินตามพี่บัวไปเรื่อยๆ จากที่เคยถือตะกร้า ตอนนี้เปลี่ยนมากึ่งดึงกึ่งลากเอาแล้ว ยกไม่ไหว
“พี่บัว น้องต้นหิวน้ำ” ในทีสุดก็ทนไม่ได้เกิดมาไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แต่พี่บัวยังทำท่าทางสบาย เดินมาตั้งนานยังไม่มีท่าว่าจะเหนื่อยเลยสักนิด
“เอ่อ พี่ลืมไป นึกว่ามากับตะวัน ไงหนักหรอ นิดเดียวเอง มาพี่ช่วยถือ” พี่บัวบอกน้องต้นแล้วก็เอาตะกร้าไปถือเองส่งเสียมมาให้น้องต้น
“ตะวัน ถือไหวหรอพี่บัวโคตรหนักเลย” น้องต้นถามพี่บัว
“แค่นี้อะชิวๆน้องต้น ปกติพี่กลับตะวันจะไปไกลกว่านี้อีก แต่วันนี้ต้องไปเอาของที่พ่อแสงกับตะวันพากันไปชื้อมาจากกรุงเทพก่อน เดียวสายๆเขาก็แจกกันแล้วเดียวเราไปช้าจะได้ของไม่ดี พวกเสื้อผ้านี้ต้องไปเอาตัวสวยๆ” พี่บัวบอกกับน้องต้น ก่อนน้องต้นจะรีบเดินตามหลังพี่ตะวันให้ทัน ตอนขามากลับตอนขากลับนี้คนละเส้นทาง เลยทำให้ถึงไวกว่าตอนขาไปมากโข แต่ว่าตื่นแต่เช้าแบบนี้อากาศเย็นสบายดีมากๆเลยน้องต้นสักชอบแล้วสิ
พอมาถึงบ้าน พ่อแสงกับตะวันและแม่ จันทร์ กำลังช่วยกันทำปลาที่ตะวันกับพ่อแสงไปจับมาได้ทำเป็นอาหารกันอยู่เลย น้องต้นก็ไปช่วยได้เยอะเหมือนกัน
จากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ออกจากบ้านตรงไปที่บ้านพ่อผู้ใหญ่เพื่อไปเอาของแจกของฟรีที่ที่อุตสาห์ลงทุนลงแรงไปชื้อที่กรุงเทพมาแล้วก็ได้น้องต้นมาเป็นของแถมด้วย - -
เพียงเวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย น้องต้นก็ช่วยทุกคนเดินถือถุงข้าวของเครื่องใช้กลับบ้าน ตะวันเล่าให้ฟังว่า พ่อกับตะวันช่วยกันเลือกเสื้อผ้าตัวดีๆเอาไว้แล้วแล้วก็ใส่ถุงไว้ตะหากตั้งแต่อยู่กรุงเทพ งานนี้เราเลยได้แต่ของดีๆมาใช้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีแต่ตัวสวยๆดีๆกัน น้องต้นก็เดินไปยิ้มไป เพราะทุกคนอารมดี น้องต้นก็อารมดีด้วย เย็นนี้อาบน้ำเสร็จก็จะได้ใส่เสื้อผ้าตัวใหม่แล้ว เสื่อผ้าที่พี่บัวเอาให้ใส่เมื่อคืนมันหลวมๆใส่เดินไปเดินมากางเกงมันชอบจะหลุดเรื่อยเลย - -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น