ตอนที่ 287 RestIn Peace นะเพื่อน
"ไอ้ ต้นช่วยกูด้วย กูรถคว่ำบี้มันนั่งมาด้วยไอ้บี้มัน...มัน...มันตายแล้ว" ไอ้อาร์ตพูดแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้งผมเองก็ช็อกไม่แพ้กัน น้ำตาไหลตามไอ้อาร์ตออกมาไม่รู้ตัว ทำไมนะ คนดีๆแบบไอ้อาร์ตมันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยจะมีโอกาสได้มีความสุขแบบคนอื่นเขาได้ไม่ทันถึงเดือนโชคชะตาก็กลั่นแกล้งพาหัวใจมันลอยหายไป
"อาร์ต ทำใจดีๆ ไว้นะ" ผมบอกไอ้อาร์ตไม่รู้จะช่วยมันอย่างไรแล้ว แน่นอนว่าจุดจบของทุกคนก็คือความตายแต่ทำไมมันมาหาไอ้บี้รวดเร็วอย่างนี้ เร็วจนไม่ได้ทันเตรียมใจไว้ก่อน
"ไอ้ ต้นช่วยกูด้วย กูรถคว่ำบี้มันนั่งมาด้วยไอ้บี้มัน...มัน...มันตายแล้ว" ไอ้อาร์ตพูดแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้งผมเองก็ช็อกไม่แพ้กัน น้ำตาไหลตามไอ้อาร์ตออกมาไม่รู้ตัว ทำไมนะ คนดีๆแบบไอ้อาร์ตมันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยจะมีโอกาสได้มีความสุขแบบคนอื่นเขาได้ไม่ทันถึงเดือนโชคชะตาก็กลั่นแกล้งพาหัวใจมันลอยหายไป
"อาร์ต ทำใจดีๆ ไว้นะ" ผมบอกไอ้อาร์ตไม่รู้จะช่วยมันอย่างไรแล้ว แน่นอนว่าจุดจบของทุกคนก็คือความตายแต่ทำไมมันมาหาไอ้บี้รวดเร็วอย่างนี้ เร็วจนไม่ได้ทันเตรียมใจไว้ก่อน
"อาร์ต
มึงเข้มแข็งไว้นะ เดี๋ยวกูไปหา"ผมบอกไอ้อาร์ตด้วยน้ำเสียงขาดห้วง
ผมพยายามปลอบไอ้อาร์ตทางโทรศัพท์ มือก็เก็บของใส่กระเป๋าเวลาอย่างนี้ไอ้อาร์ตมันคงต้องการเพื่อนที่จะเข้าใจมัน ผมเก็บเสื้อผ้าทั้งของตัวเองกับของไอ้ต้าโดยไม่ได้ถามไอ้ต้าด้วยซ้ำว่ามันจะไปด้วยกันหรือเปล่า เพราะผมมั่นใจว่าไอ้ต้ามันไม่ทิ้งเพื่อนในเวลาอย่างนี้หรอก
ไอ้อาร์ต ร้องไห้กับผมอีกพักใหญ่พอมันเริ่มทำใจได้มันก็วางสายไปผมกดโทรศัพท์หาไอ้ต้าแล้วเราเรื่องราวคร่าวๆ ให้ฟังไอ้ต้ายังอยู่ที่บ้านพี่โอห์มอยู่เลย พอมันรู้ข่าวมันก็ตกใจแล้วบอกให้ผมเตรียมตัวมันจะพาไปเชียงใหม่ด้วยกัน
ผมรอไอ้ต้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ไอ้ต้ามาแล้วมันขับรถพี่โอห์มมาด้วย สงสัยมันคงยืมรถพี่โอห์ม พอไอ้ต้าจอดรถมันก็วิ่งขึ้นมาหาผม
ผมพยายามปลอบไอ้อาร์ตทางโทรศัพท์ มือก็เก็บของใส่กระเป๋าเวลาอย่างนี้ไอ้อาร์ตมันคงต้องการเพื่อนที่จะเข้าใจมัน ผมเก็บเสื้อผ้าทั้งของตัวเองกับของไอ้ต้าโดยไม่ได้ถามไอ้ต้าด้วยซ้ำว่ามันจะไปด้วยกันหรือเปล่า เพราะผมมั่นใจว่าไอ้ต้ามันไม่ทิ้งเพื่อนในเวลาอย่างนี้หรอก
ไอ้อาร์ต ร้องไห้กับผมอีกพักใหญ่พอมันเริ่มทำใจได้มันก็วางสายไปผมกดโทรศัพท์หาไอ้ต้าแล้วเราเรื่องราวคร่าวๆ ให้ฟังไอ้ต้ายังอยู่ที่บ้านพี่โอห์มอยู่เลย พอมันรู้ข่าวมันก็ตกใจแล้วบอกให้ผมเตรียมตัวมันจะพาไปเชียงใหม่ด้วยกัน
ผมรอไอ้ต้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ไอ้ต้ามาแล้วมันขับรถพี่โอห์มมาด้วย สงสัยมันคงยืมรถพี่โอห์ม พอไอ้ต้าจอดรถมันก็วิ่งขึ้นมาหาผม
"รีบไปเหอะต้น
เดี๋ยวอาร์ตจะแย่"ผมคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งไปที่รถ ส่วนไอ้ต้าแวะไปบอกพ่อว่าเราสองคนจะ
ไปไหน
พอไอ้ต้ากลับมามันก็สตาร์ทรถแล้วขับตรงไปเชียงใหม่บนรถเราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมเองก็พูดอะไรไม่ออกในใจคิดแต่ว่าถ้าคนที่โชคร้ายในครั้งนี้ไม่ใช่ไอ้บี้ แต่กลับกลายเป็นไอ้ต้าขึ้นมาผมจะทำใจได้อย่างที่บอกให้ไอ้อาร์ตทำใจได้หรือไม่
เราสองคนไปถึง เชียงใหม่เกือบตีสามตามที่รู้ไอ้อาร์ตมันประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนค่ำนี้และตอนนี้มันยังอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะมันก็เจ็บไม่ใช่น้อยศพไอ้บี้เองก็อยู่ที่โรงพยาบาล คนสองคนอยู่ที่เดียวกันแต่ไม่สามารถที่จะพูดคุยหรือแม้กระทั่งมองตากันได้
พอไปถึงโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่ใช่เวลาเยี่ยมแต่ผมรู้อยู่ว่าไอ้อาร์ตมันอยู่ห้องไหนก็เลยแอบปีนขึ้นทางบันไดหนีไฟแล้วไปที่ห้องไอ้อาร์ตตอนนั้นเองผมก็ยังไม่รู้ว่าจะปลอบใจไอ้อาร์ตยังไงให้มันหายเศร้าผมเปิดประตูเข้าไปช้าๆตอนแรกเข้าใจว่าพ่อแม่ไอ้อาร์ตหรือไม่ก็พี่ออยคงมาเฝ้าไอ้อาร์ตอยู่แต่ปรากฏว่าผมเปิดไปกลับไม่เจอใคร
"ต้น" เสียงไอ้อาร์ตร้องเรียกผมผมเปิดไฟในห้องเห็นมันกำลังพยายามลุก ตาสองข้างแดงก่ำบ่งบอกให้รู้ว่า
พอไอ้ต้ากลับมามันก็สตาร์ทรถแล้วขับตรงไปเชียงใหม่บนรถเราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมเองก็พูดอะไรไม่ออกในใจคิดแต่ว่าถ้าคนที่โชคร้ายในครั้งนี้ไม่ใช่ไอ้บี้ แต่กลับกลายเป็นไอ้ต้าขึ้นมาผมจะทำใจได้อย่างที่บอกให้ไอ้อาร์ตทำใจได้หรือไม่
เราสองคนไปถึง เชียงใหม่เกือบตีสามตามที่รู้ไอ้อาร์ตมันประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนค่ำนี้และตอนนี้มันยังอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะมันก็เจ็บไม่ใช่น้อยศพไอ้บี้เองก็อยู่ที่โรงพยาบาล คนสองคนอยู่ที่เดียวกันแต่ไม่สามารถที่จะพูดคุยหรือแม้กระทั่งมองตากันได้
พอไปถึงโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่ใช่เวลาเยี่ยมแต่ผมรู้อยู่ว่าไอ้อาร์ตมันอยู่ห้องไหนก็เลยแอบปีนขึ้นทางบันไดหนีไฟแล้วไปที่ห้องไอ้อาร์ตตอนนั้นเองผมก็ยังไม่รู้ว่าจะปลอบใจไอ้อาร์ตยังไงให้มันหายเศร้าผมเปิดประตูเข้าไปช้าๆตอนแรกเข้าใจว่าพ่อแม่ไอ้อาร์ตหรือไม่ก็พี่ออยคงมาเฝ้าไอ้อาร์ตอยู่แต่ปรากฏว่าผมเปิดไปกลับไม่เจอใคร
"ต้น" เสียงไอ้อาร์ตร้องเรียกผมผมเปิดไฟในห้องเห็นมันกำลังพยายามลุก ตาสองข้างแดงก่ำบ่งบอกให้รู้ว่า
ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
ผมไม่พูดอะไรตรงเข้าไปกอดไอ้อาร์ตที่เริ่มร้องไห้อีกครั้งแม้มันจะไม่มีน้ำตา
ให้ไหลแล้ว
แต่ไอ้อาร์ตก็ยังสะอึกสะอื้น
ไอ้ต้าลงนั่งข้างๆ ผม มือลูบหัวไอ้อาร์ตไปด้วย ไม่ต้องมีใครพูดอะไรเราก็รู้กันดีว่าแต่ละคนรู้สึกยังไง ไอ้อาร์ตเอาแต่โอดครวญตลอดเวลาสภาพมันตอนนี้ก็แย่เหมือนกัน แขนหักข้างนึง ส่วนคอก็ใส่เฝือกอ่อนไว้
ผมกอดไอ้อาร์ตอยู่พักใหญ่มันก็เริ่มสงบลงแล้วเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบี้มันขับรถพาอาร์ตไปเที่ยวแล้วขากลับระหว่างที่นั่งกันมาไอ้บี้มันก็หันมาเล่นกับไอ้อาร์ตจังหวะนั้นมีรถออกจากซอยมาโดยที่ไม่ได้ดูว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วไอ้อาร์ตมันเห็นมันเลยร้องไอ้บี้เลยหักพวงมาลัยหลบออกข้างทางแต่ไม่พ้นหน้ารถฝั่งไอ้บี้มันเสยท้ายรถคันที่ออกจากซอยแล้วรถก็หมุนพลิกหลายตลบ
ผมกับพี่ต้านั่งฟังเรื่องราวจากปากของไอ้อาร์ตอย่าสงบไอ้อาร์ตเล่าไปร้องไห้ไป มันบอกว่าสิ่งที่ไอ้บี้พูดกับมันเป็นสิ่งสุดท้ายคือบี้มันเรียกชื่อไอ้อาร์ตก่อนที่อาร์ตจะสลบไป ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไอ้อาร์ตมันก็เหมือนผมและพี่ต้าคนที่รักจากไปเพราะอุบัติเหตุ แล้วสิ่งสุดท้ายที่พูดกับเราก็คือเขาเป็นห่วงเราบอกให้เราระวัง แต่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นเราอีกแล้ว
ผมโอบหัวไอ้อาร์ตให้มาซบลงที่บ่าพี่ต้าพยักหน้าให้ผมแล้วลงไปนั่งตรงที่นั่งเฝ้าไข้
ไอ้ต้าลงนั่งข้างๆ ผม มือลูบหัวไอ้อาร์ตไปด้วย ไม่ต้องมีใครพูดอะไรเราก็รู้กันดีว่าแต่ละคนรู้สึกยังไง ไอ้อาร์ตเอาแต่โอดครวญตลอดเวลาสภาพมันตอนนี้ก็แย่เหมือนกัน แขนหักข้างนึง ส่วนคอก็ใส่เฝือกอ่อนไว้
ผมกอดไอ้อาร์ตอยู่พักใหญ่มันก็เริ่มสงบลงแล้วเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบี้มันขับรถพาอาร์ตไปเที่ยวแล้วขากลับระหว่างที่นั่งกันมาไอ้บี้มันก็หันมาเล่นกับไอ้อาร์ตจังหวะนั้นมีรถออกจากซอยมาโดยที่ไม่ได้ดูว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วไอ้อาร์ตมันเห็นมันเลยร้องไอ้บี้เลยหักพวงมาลัยหลบออกข้างทางแต่ไม่พ้นหน้ารถฝั่งไอ้บี้มันเสยท้ายรถคันที่ออกจากซอยแล้วรถก็หมุนพลิกหลายตลบ
ผมกับพี่ต้านั่งฟังเรื่องราวจากปากของไอ้อาร์ตอย่าสงบไอ้อาร์ตเล่าไปร้องไห้ไป มันบอกว่าสิ่งที่ไอ้บี้พูดกับมันเป็นสิ่งสุดท้ายคือบี้มันเรียกชื่อไอ้อาร์ตก่อนที่อาร์ตจะสลบไป ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไอ้อาร์ตมันก็เหมือนผมและพี่ต้าคนที่รักจากไปเพราะอุบัติเหตุ แล้วสิ่งสุดท้ายที่พูดกับเราก็คือเขาเป็นห่วงเราบอกให้เราระวัง แต่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นเราอีกแล้ว
ผมโอบหัวไอ้อาร์ตให้มาซบลงที่บ่าพี่ต้าพยักหน้าให้ผมแล้วลงไปนั่งตรงที่นั่งเฝ้าไข้
"แล้วพ่อแม่มึงรู้รึยัง"
ผมถาม ไอ้อาร์ตส่ายหน้า
"กูยังไม่ได้บอก
พอรู้ว่าบี้มันตายกูก็ทำอะไรไม่ถูก" ไอ้อาร์ตตอบเศร้าๆผมเอามือลูบหัวมัน
"งั้นพอเช้าแล้วเราค่อยบอกนะ
ว่าแต่มึงเหอะได้นอนรึยัง"ผมถาม ไอ้อาร์ตส่ายหน้า
"กูนอนไม่หลับ
หลับตาก็เห็นแต่หน้าไอ้บี้มัน"ไอ้อาร์ตตอบเบาๆ
"นอนพักซะเหอะอาร์ต เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว"พี่ต้าบอกไอ้อาร์ต ผมพยักหน้าเห็นด้วย มือก็ลูบหัวไอ้อาร์ต
"นอนพักซะเหอะอาร์ต เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว"พี่ต้าบอกไอ้อาร์ต ผมพยักหน้าเห็นด้วย มือก็ลูบหัวไอ้อาร์ต
ที่ยังสะอื้นเป็นระยะ
"ได้กินอะไรบ้างรึยัง"
ผมถามไอ้อาร์ต
ไอ้อาร์ตไม่ตอบได้แต่มองเหม่อไปข้างหน้าผมยิ่งเป็นห่วงมันใหญ่อยากให้มันทำใจได้เร็วๆ
"ต้นอยู่เป็นเพื่อนอาร์ตไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา"ไอ้ต้าบอกก่อนเปิดประตูออกไป พอผมอยู่กับไอ้อาร์ตแค่สองคนไอ้อาร์ตมันก็กอดผมแน่น
"ต้นอยู่เป็นเพื่อนอาร์ตไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา"ไอ้ต้าบอกก่อนเปิดประตูออกไป พอผมอยู่กับไอ้อาร์ตแค่สองคนไอ้อาร์ตมันก็กอดผมแน่น
"ต้น
กูทนไม่ไหวแล้ว ทำไมเรื่องพวกนี้ต้องเกิดขึ้นกับกูด้วย"ไอ้อาร์ตร้อง
ผมกอดไอ้อาร์ตไว้ในวงแขน ไม่รู้จะตอบมันว่ายังไงดี
"อาร์ต
มึงต้องสู้นะ ยังไงมึงก็มีกู มีพี่ต้า" ผมบอกไอ้อาร์ตยังคงปล่อยโฮ
"มึงดูกูสิ อาร์ต ถ้ากูไม่มีพี่ต้ากูก็ไม่เหลือใครเลยพ่อแม่กูก็ตายหมด ญาติพี่น้องก็ไม่มี มึงยังมีพ่อแม่ มีพี่ออยนะ" ผมพยายามปลอบใจไอ้อาร์ต
"มึงดูกูสิ อาร์ต ถ้ากูไม่มีพี่ต้ากูก็ไม่เหลือใครเลยพ่อแม่กูก็ตายหมด ญาติพี่น้องก็ไม่มี มึงยังมีพ่อแม่ มีพี่ออยนะ" ผมพยายามปลอบใจไอ้อาร์ต
"วันนี้ไอ้บี้มันไปสบายแล้ว
มึงอย่าเสียใจเลย" ผมพยายามบอกทั้งที่ตัวเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
พ่อกับแม่ก็ไปสบายแล้วใช่ไหมครับแต่ต้นก็ยังคิดถึงพ่อกับแม่อยู่นะ
ผมพยายามปลอบไอ้อาร์ตอยู่นานจนเห็นว่าไอ้อาร์ตมันอิดโรยเต็มที่ก็เลยกอดตัวมันแล้วล้มลงนอนบนเตียง
ผมพยายามปลอบไอ้อาร์ตอยู่นานจนเห็นว่าไอ้อาร์ตมันอิดโรยเต็มที่ก็เลยกอดตัวมันแล้วล้มลงนอนบนเตียง
คนป่วย
ไปด้วยกัน ไอ้อาร์ตมันนอนหนุนแขนผมอยู่
ยังคงสะอื้นเป็นพักๆผมเอามือลูบหัวมันไปด้วย สักพัก
ไอ้อาร์ตก็เงียบเสียงลง
ไอ้ตากลับมาแล้ว ในมือมันถือถุงใส่ขนมแล้วก็นมมาด้วยผมยังไม่หลับพอเห็นไอ้ต้ามาก็เลยจะลุกลงจากเตียง แต่ไอ้ต้ายกมือห้าม
ไอ้ตากลับมาแล้ว ในมือมันถือถุงใส่ขนมแล้วก็นมมาด้วยผมยังไม่หลับพอเห็นไอ้ต้ามาก็เลยจะลุกลงจากเตียง แต่ไอ้ต้ายกมือห้าม
"ต้นนอนกอดอาร์ตไว้น่ะดีแล้ว
ไม่เป็นไรหรอก" ไอ้ต้าบอกผมเลยลดตัวลงตามเดิม
"หิวไหม"
ไอ้ต้าถามผม ผมส่ายหน้า กินอะไรไม่ลงจริงๆท่าทางไอ้ต้าก็กินไม่ลงเหมือนกัน
แต่มันคงซื้อมาเผื่อไว้ก่อน
ไอ้ต้านั่งลงที่ข้างเตียง มองผ่านผมไปทางไอ้อาร์ตเศร้าๆผมเอื้อมมืออีกข้างไปจับมือไอ้ต้าไว้ไอ้ต้าก็ซุกหน้าลงกับมือผมแล้วดึงมือผมไปแนบหน้ามัน ผมมองตาไอ้ต้าแสงสลัวจากทางเดินส่องให้เห็นแววตาเศร้าชัดเจน
ไอ้ต้านั่งลงที่ข้างเตียง มองผ่านผมไปทางไอ้อาร์ตเศร้าๆผมเอื้อมมืออีกข้างไปจับมือไอ้ต้าไว้ไอ้ต้าก็ซุกหน้าลงกับมือผมแล้วดึงมือผมไปแนบหน้ามัน ผมมองตาไอ้ต้าแสงสลัวจากทางเดินส่องให้เห็นแววตาเศร้าชัดเจน
ผมบีบมือไอ้ต้าแน่นแล้วบอกมันเบาๆ
"พี่ต้า ถ้าพี่จะไปแบบไอ้บี้พี่ต้าต้องบอกต้นก่อนนะต้นจะได้ไปด้วย ต้นอยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ" ผมบอกไอ้ต้าไอ้ต้าบีบมือผมแน่นแล้วพยักหน้าก่อนจะซบหน้าลงที่มือผมอีกครั้งผมปล่อยตัวเองล่องลอยไปตามความคิดได้ครู่ใหญ่ ก็เคลิ้มหลับไป
ผมตื่นมาอีกครั้ง ไอ้ต้ากับไอ้อาร์ตยังคงหลับอยู่แสงสว่างข้างนอกเริ่มส่องมาให้เห็น พอผมขยับตัวไอ้อาร์ตมัน
"พี่ต้า ถ้าพี่จะไปแบบไอ้บี้พี่ต้าต้องบอกต้นก่อนนะต้นจะได้ไปด้วย ต้นอยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ" ผมบอกไอ้ต้าไอ้ต้าบีบมือผมแน่นแล้วพยักหน้าก่อนจะซบหน้าลงที่มือผมอีกครั้งผมปล่อยตัวเองล่องลอยไปตามความคิดได้ครู่ใหญ่ ก็เคลิ้มหลับไป
ผมตื่นมาอีกครั้ง ไอ้ต้ากับไอ้อาร์ตยังคงหลับอยู่แสงสว่างข้างนอกเริ่มส่องมาให้เห็น พอผมขยับตัวไอ้อาร์ตมัน
ก็ลืมตา
ผมเลยก้มหน้าจูบหน้าผากมันเบาๆไอ้อาร์ตยังคงมีแววตาเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
"ต้น
พากูไปหน่อย" ไอ้อาร์ตบอกเสียงสั่น
ผมพอจะรู้ว่าไปไหน เลยพยักหน้าให้มันแล้วค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไม่อยากปลุกไอ้ต้าเพราะมันนั่งหลับอยู่อยากให้หลับต่อเพราะมันเองก็ขับรถมาทั้งคืนแล้ว ผมโผล่หน้าออกไปตรงทางเดินเห็นรถเข็นพับอยู่ตรง
ผมพอจะรู้ว่าไปไหน เลยพยักหน้าให้มันแล้วค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไม่อยากปลุกไอ้ต้าเพราะมันนั่งหลับอยู่อยากให้หลับต่อเพราะมันเองก็ขับรถมาทั้งคืนแล้ว ผมโผล่หน้าออกไปตรงทางเดินเห็นรถเข็นพับอยู่ตรง
เคาเตอร์เลยเข็นมาคันนึง
แล้วไปรับไอ้อาร์ตที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้อง
ไอ้อาร์ตเขย่งลงมานั่งบน รถเข็นแล้วผมก็ค่อยๆเข็นออกไปตามทางเดินเงียบๆ สิ่งที่รู้อย่างนึงก็คือพ่อกับแม่
ไอ้อาร์ตเขย่งลงมานั่งบน รถเข็นแล้วผมก็ค่อยๆเข็นออกไปตามทางเดินเงียบๆ สิ่งที่รู้อย่างนึงก็คือพ่อกับแม่
ของบี้รู้เรื่องลูกชายแล้ว
แต่ฝากศพไว้ที่โรงพยาบาลก่อนเพราะเมื่อวานนี้ค่ำแล้วทำอะไรไม่ทันไอ้อาร์ตมันอยากให้ผมพามันไปหาไอ้บี้ตอนที่ยังไม่มีใครพาร่างมันไป
ผมเข็นรถไปเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเก็บศพกันไว้ห้องไหนจนมาเจอเจ้าหน้าที่เดินสวนทางมาก็เลยถามเจ้าหน้าที่คนนั้นก็มองทั้งผมและไอ้อาร์ตแปลกๆ แต่ก็ยอมบอกทางเราโดยดีพอผมไปถึงห้องเก็บศพมีเจ้าหน้าที่อีกคนเฝ้าอยู่ผมเลยไปขอร้องโดยอ้างว่าไอ้อาร์ตมันเป็นน้องชายที่ประสบอุบัติเหตุมาด้วยกันและอยากเห็นศพพี่ชาย
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเพราะไม่ใช่เวลาทำงานของเขาแต่ผมก็พยายามอ้อนวอนจนเขาใจอ่อนเปิดประตูให้เราสองคนเข้าไป ผมเข็นรถพาอาร์ตเข้าไปช้าๆความเย็นในห้องทำให้บรรยากาศรอบตัวหดหู่กว่าเดิม หลายศพที่นอนอยู่บนเตียงบ่งบอกว่ามีคนต้องเสียใจอีกมากมาย
ผมเข็นรถผ่านเตียงหลายเตียงที่มี ผ้าคลุมความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้มีความกลัวเลย มีแต่ความสลดใจกับภาพที่เห็นผมไม่รู้หรอกว่าเตียงที่บี้มันนอนอยู่คือเตียงไหนแต่ไอ้อาร์ตมันก็ชี้ไปที่เตียงนึงที่อยู่ตรงสุดห้อง
ผมเข็นรถเข้าไป ช้าๆไอ้อาร์ตเริ่มสะอื้นอีกแล้วผมต้องเอามือจับบ่ามันไว้ข้างนึงแล้วค่อยๆเข็นเข้าไปจนถึงเตียงที่มีผ้าสีขาวสะอาดคลุมอยู่ ตรงปลายเท้าที่ยื่นออกมาเล็กน้อยมีป้ายเล็กๆห้อยอยู่ ผมจับป้ายนั้นพลิกขึ้นมาดู ใช่บี้จริงๆ ด้วยผมหันไปหาไอ้อาร์ตที่จ้องร่างนั้นนิ่ง น้ำตาไหลเป็นทาง
ไอ้อาร์ต พยายามดันตัวลุกขึ้นยืนผมเลยเข้าไปประคองมันวางมือไว้บนร่างที่แน่นิ่ง แขนข้างที่หักอีกข้างพยายามเปิดผ้าคลุมออกผมจับแขนไอ้อาร์ตไว้
ผมเข็นรถไปเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเก็บศพกันไว้ห้องไหนจนมาเจอเจ้าหน้าที่เดินสวนทางมาก็เลยถามเจ้าหน้าที่คนนั้นก็มองทั้งผมและไอ้อาร์ตแปลกๆ แต่ก็ยอมบอกทางเราโดยดีพอผมไปถึงห้องเก็บศพมีเจ้าหน้าที่อีกคนเฝ้าอยู่ผมเลยไปขอร้องโดยอ้างว่าไอ้อาร์ตมันเป็นน้องชายที่ประสบอุบัติเหตุมาด้วยกันและอยากเห็นศพพี่ชาย
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเพราะไม่ใช่เวลาทำงานของเขาแต่ผมก็พยายามอ้อนวอนจนเขาใจอ่อนเปิดประตูให้เราสองคนเข้าไป ผมเข็นรถพาอาร์ตเข้าไปช้าๆความเย็นในห้องทำให้บรรยากาศรอบตัวหดหู่กว่าเดิม หลายศพที่นอนอยู่บนเตียงบ่งบอกว่ามีคนต้องเสียใจอีกมากมาย
ผมเข็นรถผ่านเตียงหลายเตียงที่มี ผ้าคลุมความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้มีความกลัวเลย มีแต่ความสลดใจกับภาพที่เห็นผมไม่รู้หรอกว่าเตียงที่บี้มันนอนอยู่คือเตียงไหนแต่ไอ้อาร์ตมันก็ชี้ไปที่เตียงนึงที่อยู่ตรงสุดห้อง
ผมเข็นรถเข้าไป ช้าๆไอ้อาร์ตเริ่มสะอื้นอีกแล้วผมต้องเอามือจับบ่ามันไว้ข้างนึงแล้วค่อยๆเข็นเข้าไปจนถึงเตียงที่มีผ้าสีขาวสะอาดคลุมอยู่ ตรงปลายเท้าที่ยื่นออกมาเล็กน้อยมีป้ายเล็กๆห้อยอยู่ ผมจับป้ายนั้นพลิกขึ้นมาดู ใช่บี้จริงๆ ด้วยผมหันไปหาไอ้อาร์ตที่จ้องร่างนั้นนิ่ง น้ำตาไหลเป็นทาง
ไอ้อาร์ต พยายามดันตัวลุกขึ้นยืนผมเลยเข้าไปประคองมันวางมือไว้บนร่างที่แน่นิ่ง แขนข้างที่หักอีกข้างพยายามเปิดผ้าคลุมออกผมจับแขนไอ้อาร์ตไว้
"อย่าเลยอาร์ต
เก็บภาพดีๆ ของบี้ไว้ในใจเหอะ" ผมบอกไอ้อาร์ตไอ้อาร์ตไม่ละความพยายาม
เอามืออีกข้างดึงผ้าลงช้าๆ
ผ้าที่ปิดคลุม ถูกเปิดออกช้าๆ ใบหน้าของกำบี้ค่อยเปิดขึ้นมาทีละนิดไม่มีร่องรอยความเสียหายบนใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแม้แต่น้อยเหมือนบี้มันกำลังหลับอยู่มีเพียงแต่หน้าที่ซีดเผือดบ่งบอกว่าเจ้าของได้ทิ้งร่างนี้ไปแล้วไอ้อาร์ตเปิดผ้าลงทีละนิดจนเห็นริมฝีปากของบี้ที่ยักขึ้นเล็กน้อยตรงมุมปากเหมือนคนกำลังยิ้มอยู่ คงเพราะ
ผ้าที่ปิดคลุม ถูกเปิดออกช้าๆ ใบหน้าของกำบี้ค่อยเปิดขึ้นมาทีละนิดไม่มีร่องรอยความเสียหายบนใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแม้แต่น้อยเหมือนบี้มันกำลังหลับอยู่มีเพียงแต่หน้าที่ซีดเผือดบ่งบอกว่าเจ้าของได้ทิ้งร่างนี้ไปแล้วไอ้อาร์ตเปิดผ้าลงทีละนิดจนเห็นริมฝีปากของบี้ที่ยักขึ้นเล็กน้อยตรงมุมปากเหมือนคนกำลังยิ้มอยู่ คงเพราะ
มันจากไปตอนที่กำลังมีความสุขนั่นเอง
ผมมองไอ้อาร์ตด้วยจิตใจที่หดหู่ไอ้อาร์ตน้ำตานองหน้าก้มลงตรงหน้าบี้แล้วหอมแก้มมันเบาๆก่อนสะอื้นอีกครั้งจนผมต้องช่วยประคองให้มันกลับมานั่งบนรถเข็นผมปล่อยให้อาร์ตมันคุยกับบี้ตามลำพังพักนึงก่อนเห็นว่าเราสองคนควรจะไปได้แล้วเลยสะกิดบอกไอ้อาร์ตไอ้อาร์ตมันเลยก้มหน้าจูบแก้มบี้อีกครั้ง แล้วเอาผ้าคลุมศพบี้มันไว้ตามเดิม
ผมเข็นรถไอ้อาร์ตออกมาจากห้องเก็บศพขอบคุณเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วก็เข็นออกมาเรื่อยๆยังไม่อยากกลับห้องเลยเข็นไปตามทางเดินไปเรื่อยๆ ให้ไอ้อาร์ตมันได้ผ่อนคลายลงบ้างแต่แล้วผมก็เห็นคนกลุ่มนึงกำลัง
ผมมองไอ้อาร์ตด้วยจิตใจที่หดหู่ไอ้อาร์ตน้ำตานองหน้าก้มลงตรงหน้าบี้แล้วหอมแก้มมันเบาๆก่อนสะอื้นอีกครั้งจนผมต้องช่วยประคองให้มันกลับมานั่งบนรถเข็นผมปล่อยให้อาร์ตมันคุยกับบี้ตามลำพังพักนึงก่อนเห็นว่าเราสองคนควรจะไปได้แล้วเลยสะกิดบอกไอ้อาร์ตไอ้อาร์ตมันเลยก้มหน้าจูบแก้มบี้อีกครั้ง แล้วเอาผ้าคลุมศพบี้มันไว้ตามเดิม
ผมเข็นรถไอ้อาร์ตออกมาจากห้องเก็บศพขอบคุณเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วก็เข็นออกมาเรื่อยๆยังไม่อยากกลับห้องเลยเข็นไปตามทางเดินไปเรื่อยๆ ให้ไอ้อาร์ตมันได้ผ่อนคลายลงบ้างแต่แล้วผมก็เห็นคนกลุ่มนึงกำลัง
ลงจากรถ
ทั้งหมดใส่ชุดดำ พอดีไอ้อาร์ตมันก็พูดขึ้นมา
"พ่อกับแม่บี้มาแล้ว" ผมลังเลว่าจะเอายังไงดีไม่รู้ไอ้อาร์ตมันอยากเผชิญหน้าหรือเปล่า
"พ่อกับแม่บี้มาแล้ว" ผมลังเลว่าจะเอายังไงดีไม่รู้ไอ้อาร์ตมันอยากเผชิญหน้าหรือเปล่า
"อาร์ต
กลับห้องไหม"ผมถามตอนที่คนกลุ่มนั้นกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
"ไม่ต้องหรอก
อยู่ที่นี่แหละ" ไอ้อาร์ตตอบผมผมเลื่อนมือมาจับบ่าไอ้อาร์ตบีบไว้
ไอ้อาร์ตมันก็พยายามดันตัวลุกขึ้นช้าๆ
พอคนกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ไอ้อาร์ตมันก็ยกมือไหว้ผมเลยต้องยกมือไหว้ตามคนที่เหมือนจะเป็นพ่อแม่ของบี้รับไหว้แล้วก็ยืนจ้องอยู่สักพักเหมือนแม่ของบี้จะเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าคนอื่น เดินมาหาอาร์ตแล้วถามเบาๆ
พอคนกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ไอ้อาร์ตมันก็ยกมือไหว้ผมเลยต้องยกมือไหว้ตามคนที่เหมือนจะเป็นพ่อแม่ของบี้รับไหว้แล้วก็ยืนจ้องอยู่สักพักเหมือนแม่ของบี้จะเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าคนอื่น เดินมาหาอาร์ตแล้วถามเบาๆ
มือจับที่แขนไอ้อาร์ต
ตอนที่ 288 ก่อนดอกไม้จะบาน
"หนูคือเพื่อนกำบี้คนที่ชื่ออาร์ตใช่ไหม"แม่ของบี้พูดกับไอ้อาร์ตมือจับที่แขนไอ้อาร์ตเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกสูญเสียให้แก่กันไอ้อาร์ตเม้มปากแล้วพยักหน้ารับแล้วแม่ของบี้ก็กอดไอ้อาร์ตไว้ในอ้อมแขน
ผมยืนดูภาพคนสองคนยืนกอดกันตรงหน้าแล้วรู้สึกอึดอัดในใจจนต้องเบนหน้าหนีถึงไอ้อาร์ตจะรักบี้มันมากแค่ไหนแต่หัวใจของคนเป็นแม่ก็ต้องสลายเมื่อลูกชายที่รักต้องจากไปก่อนวัยอันควรไม่ยุติธรรมเลยที่คนหนุ่มต้องมาตายก่อนคนแก่ไม่ยุติธรรมเลยที่แม่ต้องมาเผาศพลูกชายตัวเอง
แม่ของบี้เอามือลูบหัวไอ้อาร์ตก่อนหันไปหาพ่อ
ตอนที่ 288 ก่อนดอกไม้จะบาน
"หนูคือเพื่อนกำบี้คนที่ชื่ออาร์ตใช่ไหม"แม่ของบี้พูดกับไอ้อาร์ตมือจับที่แขนไอ้อาร์ตเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกสูญเสียให้แก่กันไอ้อาร์ตเม้มปากแล้วพยักหน้ารับแล้วแม่ของบี้ก็กอดไอ้อาร์ตไว้ในอ้อมแขน
ผมยืนดูภาพคนสองคนยืนกอดกันตรงหน้าแล้วรู้สึกอึดอัดในใจจนต้องเบนหน้าหนีถึงไอ้อาร์ตจะรักบี้มันมากแค่ไหนแต่หัวใจของคนเป็นแม่ก็ต้องสลายเมื่อลูกชายที่รักต้องจากไปก่อนวัยอันควรไม่ยุติธรรมเลยที่คนหนุ่มต้องมาตายก่อนคนแก่ไม่ยุติธรรมเลยที่แม่ต้องมาเผาศพลูกชายตัวเอง
แม่ของบี้เอามือลูบหัวไอ้อาร์ตก่อนหันไปหาพ่อ
"คุณไปดูลูกก่อนเถอะ"
พ่อของบี้แค่มองที่ไอ้อาร์ตแต่ไม่พูดอะไรแล้วก็พาญาติๆ เดินไปทางห้องเก็บศพของ
ลูกชาย
ตอนนั้นเหลือแค่ผมแม่บี้แล้วก็อาร์ตเท่านั้นไม่รู้อะไรทำให้ผมคิดว่าแม่ของบี้อาจจะมีอะไรคุยกับ
ไอ้อาร์ตเป็นการส่วนตัวผมเลยเดินเลี่ยงออกมายืนห่างออกไป
แม่ของบี้คุยอะไรกับไอ้อาร์ตสักครู่ใหญ่ก่อนจะเดินมาทางผม
แม่ของบี้คุยอะไรกับไอ้อาร์ตสักครู่ใหญ่ก่อนจะเดินมาทางผม
"หนูเป็นเพื่อนอาร์ตใช่ไหม"แม่ของบี้ถามผมเลยพยักหน้าตอบรับ
แม่มองไปทางอาร์ตก่อนจับที่แขนผม
"มี่ฝากดูแลอาร์ตด้วยนะ
อาร์ตคงจะเสียใจมาก"
แม่ของบี้ยังอุตสาห์ฝากผมให้ช่วยดูแลเพื่อนรักของลูกชายทั้งที่ตัวเองใจสลายไม่แพ้กัน
พอแม่เดินห่างออกไปแล้วผมก็เดินไปหาไอ้อาร์ตที่นั่งร้องไห้เงียบๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่เอามือจับไหล่มันบีบเบาๆไอ้อาร์ตเงยหน้ามองผมก่อนส่งกระดาษแผ่นนึงให้ผมอ่านข้อความที่เขียนในกระดาษแผ่นนั้น
พอแม่เดินห่างออกไปแล้วผมก็เดินไปหาไอ้อาร์ตที่นั่งร้องไห้เงียบๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่เอามือจับไหล่มันบีบเบาๆไอ้อาร์ตเงยหน้ามองผมก่อนส่งกระดาษแผ่นนึงให้ผมอ่านข้อความที่เขียนในกระดาษแผ่นนั้น
ผมจะเอามาถ่ายทอดลงในนี้ด้วยขอบคุณไอ้อาร์ตที่ให้ยืมและอนุญาตให้ผมเอามาลงด้วยนะ
"แม่ครับ
บี้เขียนจดหมายฉบับนี้เพราะบี้มีเรื่องอยากให้แม่รู้แต่บี้ไม่กล้าบอกกับแม่ตรงๆบี้อยากบอกแม่ว่าวันนี้บี้มีความสุขมากๆ แต่แม่ก็คงจะสงสัยว่าอะไรที่ทำให้บี้มีความสุขแบบนี้
สิ่งที่ทำให้บี้มีความสุขตอนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจและรู้จักกันว่าความรักใช่ครับแม่บี้กำลังมีความรักแต่แม่ก็คงสงสัยอีกแหละว่าทำไมบี้ถึงไม่กล้าบอกแม่ว่าบี้กำลังมีความรัก
ความรักของบี้อาจจะไม่เหมือนคนอื่นทั่วไปจนทำให้บี้ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ตรงๆบี้เลยคิดที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเผื่อวันนึงข้างหน้าบี้กล้าพอ บี้จะได้เอาให้แม่ได้อ่านหรือถ้าบี้กล้าได้มากกว่านั้นบี้จะบอกกับแม่ด้วยปากของบี้เองที่บี้บอกว่าความรักของบี้ไม่เหมือนคนอื่นทั่วไปก็เพราะคนที่บี้รักนั้น เค้าไม่ได้เป็นผู้หญิง
"แม่ครับ
บี้เขียนจดหมายฉบับนี้เพราะบี้มีเรื่องอยากให้แม่รู้แต่บี้ไม่กล้าบอกกับแม่ตรงๆบี้อยากบอกแม่ว่าวันนี้บี้มีความสุขมากๆ แต่แม่ก็คงจะสงสัยว่าอะไรที่ทำให้บี้มีความสุขแบบนี้
สิ่งที่ทำให้บี้มีความสุขตอนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจและรู้จักกันว่าความรักใช่ครับแม่บี้กำลังมีความรักแต่แม่ก็คงสงสัยอีกแหละว่าทำไมบี้ถึงไม่กล้าบอกแม่ว่าบี้กำลังมีความรัก
ความรักของบี้อาจจะไม่เหมือนคนอื่นทั่วไปจนทำให้บี้ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ตรงๆบี้เลยคิดที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเผื่อวันนึงข้างหน้าบี้กล้าพอ บี้จะได้เอาให้แม่ได้อ่านหรือถ้าบี้กล้าได้มากกว่านั้นบี้จะบอกกับแม่ด้วยปากของบี้เองที่บี้บอกว่าความรักของบี้ไม่เหมือนคนอื่นทั่วไปก็เพราะคนที่บี้รักนั้น เค้าไม่ได้เป็นผู้หญิง
แต่เป็นผู้ชายครับ
อย่าเพิ่งตกใจนะครับแม่บี้อยากให้แม่อ่านต่อให้จบก่อนบี้ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงแต่ในวันนี้บี้รู้สึกรักเค้ามากรักมากจริงๆแม่ยังจำเพื่อนที่บี้เคยพูดถึงบ่อยๆ ที่ชื่ออาร์ตได้ใช่ไหมครับที่ผ่านมาเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดและไม่เคยได้มีโอกาสเปิดใจกันเลยแต่แล้ววันนึงบี้กับเค้าก็มีโอกาสได้เรียนรู้ความรู้สึกของกันและกันและบี้ก็ค้นพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นคือความรัก
แม่อย่าเสียใจนะครับที่ลูกชายของแม่คนนี้เป็นแบบนี้แม่เคยบอกบี้ใช่ไหมครับว่าแม่ไม่เคยตั้งความหวังไว้ว่า
อย่าเพิ่งตกใจนะครับแม่บี้อยากให้แม่อ่านต่อให้จบก่อนบี้ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงแต่ในวันนี้บี้รู้สึกรักเค้ามากรักมากจริงๆแม่ยังจำเพื่อนที่บี้เคยพูดถึงบ่อยๆ ที่ชื่ออาร์ตได้ใช่ไหมครับที่ผ่านมาเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอดและไม่เคยได้มีโอกาสเปิดใจกันเลยแต่แล้ววันนึงบี้กับเค้าก็มีโอกาสได้เรียนรู้ความรู้สึกของกันและกันและบี้ก็ค้นพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนนั้นคือความรัก
แม่อย่าเสียใจนะครับที่ลูกชายของแม่คนนี้เป็นแบบนี้แม่เคยบอกบี้ใช่ไหมครับว่าแม่ไม่เคยตั้งความหวังไว้ว่า
บี้จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้บี้ขอใช้โอกาสที่แม่บอกนี้นะครับบี้ขอรักผู้ชายคนนี้เหมือนกับที่แม่รักบี้และบี้จะเป็นคนดี
เป็นเด็กดีไม่ทำให้แม่เสียใจในเรื่องอื่นๆ เลยบี้ขอแค่เพียงได้รักเขานะครับ
บี้ขอโทษนะครับถ้าเรื่องนี้ทำให้แม่ต้องเสียใจบี้ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าให้แม่เข้าใจและบี้ก็หวังว่าวันนึงแม่จะรู้สึกรักอาร์ตได้เหมือนกับที่แม่รักบี้ในวันนี้
บี้รักแม่นะครับ"
ผมอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นจนจบน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวบี้มันกล้ากว่าผมอีก ถึงมันยังไม่กล้า
บี้ขอโทษนะครับถ้าเรื่องนี้ทำให้แม่ต้องเสียใจบี้ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าให้แม่เข้าใจและบี้ก็หวังว่าวันนึงแม่จะรู้สึกรักอาร์ตได้เหมือนกับที่แม่รักบี้ในวันนี้
บี้รักแม่นะครับ"
ผมอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นจนจบน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวบี้มันกล้ากว่าผมอีก ถึงมันยังไม่กล้า
จะบอกความจริงกับแม่แต่มันก็กล้าที่จะบันทึกเรื่องราวระหว่างมันกับไอ้อาร์ตเผื่อว่าวันนึงมันจะได้มี
โอกาสบอกผมกับไอ้ต้าคบกันมาตั้งนานแล้วเราสองคนยังไม่กล้าแม้แต่จะคิดบอกเรื่องของเราสองคนให้พ่อ
ได้รู้
ผมส่งกระดาษคืนให้ไอ้อาร์ตที่ยังคงนั่งมองไปไกลๆน้ำตามันไหลออกมาช้าๆ ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้วได้แต่โอบบ่ามันไว้เงียบๆจนพักใหญ่ก็มีญาติของบี้คนนึงเดินมาหา
ผมส่งกระดาษคืนให้ไอ้อาร์ตที่ยังคงนั่งมองไปไกลๆน้ำตามันไหลออกมาช้าๆ ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้วได้แต่โอบบ่ามันไว้เงียบๆจนพักใหญ่ก็มีญาติของบี้คนนึงเดินมาหา
"อาร์ตจะไปดูบี้หน่อยไหมเดี๋ยวจะเอาลงโลงแล้ว"ผมใจหายวาบขึ้นมาทันทีโอกาสสุดท้ายที่ไอ้อาร์ตมันจะได้เห็นบี้ในสภาพนี้กำลังจะมาถึงผมไม่รู้ว่าไอ้อาร์ตมันจะรับเรื่องทั้งหมดนี้ได้อีกหรือเปล่าแต่ไอ้อาร์ตก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเงียบๆ
ผมเดินตามไอ้อาร์ตไปสักพักมันก็หยุดหันมาหาผม
ผมเดินตามไอ้อาร์ตไปสักพักมันก็หยุดหันมาหาผม
"ไม่เป็นไรต้น
กูไปคนเดียวได้"ไอ้อาร์ตบอกผมยังมองมันอย่างเป็นห่วงแต่มันก็พยักหน้ายืนยันผมเลยถอยมายืนรออยู่ปล่อยให้ไอ้อาร์ตเดินกระย่องกระแย่งไป
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายในห้องเก็บศพ ไอ้ต้าก็มาหาผมเหมือนมันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผมกับมันยืนจับมือกันตรงทางเดินไม่ช้าบรรดาญาติก็ช่วยกันนำโลงศพของบี้ออกมาพ่อของบี้ถือรูปถ่ายของลูกชายไว้ในมือส่วนอาร์ตกับแม่ของบี้เดินจับมือกันมาช้าๆไม่มีใครพูดอะไร
ผมกับไอ้ต้ายกมือไว้ศพขอขมาในสิ่งที่เราสองคนอาจเคยล่วงเกินไปบรรยากาศตอนนั้นมีแต่ความเศร้าไม่มีใครพูดอะไรกันเลยผมกับไอ้ต้าเดินตามไปจนเอาโลงขึ้นรถเรียบร้อยแม่ของบี้ยังไม่ปล่อยมือไอ้อาร์ตไอ้อาร์ตมองภาพตรงหน้าน้ำตานองหน้าก่อนหันไปหาแม่ของบี้
"แม่ครับ ถ้าแม่ไม่ว่าอะไรผมขอบวชหน้าไฟให้บี้นะครับ"ไอ้อาร์ตบอกกับแม่ของบี้เบาๆ แม่ไม่ตอบอะไรได้แต่ดึงตัวไอ้อาร์ตเข้าไปกอดแน่นน้ำตาไหลเป็นทางก่อนแม่จะจับไหล่ไอ้อาร์ตทั้งสองข้าง
"อาร์ต ถึงไม่มีบี้แล้วหนูก็ต้องมาหาแม่บ้างนะ"ผมได้ยินสิ่งที่แม่ของบี้บอกไอ้อาณ์ตแล้วก็ประมวลเข้ากับสิ่งที่บี้มันเขียนในจดหมายได้ทันทีความเป็นแม่ไม่ว่าลูกจะทำอะไรหรือเป็นอะไรแม่ก็ยอมรับได้เสมอ ไอ้อาร์ต
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายในห้องเก็บศพ ไอ้ต้าก็มาหาผมเหมือนมันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผมกับมันยืนจับมือกันตรงทางเดินไม่ช้าบรรดาญาติก็ช่วยกันนำโลงศพของบี้ออกมาพ่อของบี้ถือรูปถ่ายของลูกชายไว้ในมือส่วนอาร์ตกับแม่ของบี้เดินจับมือกันมาช้าๆไม่มีใครพูดอะไร
ผมกับไอ้ต้ายกมือไว้ศพขอขมาในสิ่งที่เราสองคนอาจเคยล่วงเกินไปบรรยากาศตอนนั้นมีแต่ความเศร้าไม่มีใครพูดอะไรกันเลยผมกับไอ้ต้าเดินตามไปจนเอาโลงขึ้นรถเรียบร้อยแม่ของบี้ยังไม่ปล่อยมือไอ้อาร์ตไอ้อาร์ตมองภาพตรงหน้าน้ำตานองหน้าก่อนหันไปหาแม่ของบี้
"แม่ครับ ถ้าแม่ไม่ว่าอะไรผมขอบวชหน้าไฟให้บี้นะครับ"ไอ้อาร์ตบอกกับแม่ของบี้เบาๆ แม่ไม่ตอบอะไรได้แต่ดึงตัวไอ้อาร์ตเข้าไปกอดแน่นน้ำตาไหลเป็นทางก่อนแม่จะจับไหล่ไอ้อาร์ตทั้งสองข้าง
"อาร์ต ถึงไม่มีบี้แล้วหนูก็ต้องมาหาแม่บ้างนะ"ผมได้ยินสิ่งที่แม่ของบี้บอกไอ้อาณ์ตแล้วก็ประมวลเข้ากับสิ่งที่บี้มันเขียนในจดหมายได้ทันทีความเป็นแม่ไม่ว่าลูกจะทำอะไรหรือเป็นอะไรแม่ก็ยอมรับได้เสมอ ไอ้อาร์ต
พยักหน้าก่อนยกมือไหว้
แล้วแม่ก็ไปขึ้นรถก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไปช้าๆ
ผมไอ้ต้าและไอ้อาร์ตยืนมองรถที่เลี้ยวไปสุดสายตาก่อนไปจับไหล่ไอ้อาร์ตแววตามันยังบ่งบอกถึงความเสียใจอยู่อย่างเห็นได้ชัดแต่ดูว่าไอ้อาร์ตมันจะเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมมันไม่ยอมกลับมานั่งรถเข็นอีกถึงแม้จะเจ็บแต่มันก็พยายามเดินด้วยตัวเองคงอยากให้บี้ได้เห็นว่ามันสามารถอยู่ได้
ไอ้อาร์ตอยู่โรงพยาบาลอีกหนึ่งคืน หลังจากนั้นก็ไปพักที่หอ ญาติๆบี้มาเก็บของที่หอของบี้ไปหมดแล้วเหลือแต่ห้องเปล่าๆ ผมไม่รู้ว่าไอ้อาร์ตมันจะรู้สึกอย่างไรที่ทุกวันเวลาเดินขึ้นหรือเดินลงจากห้องจะต้องเห็นห้อง
ผมไอ้ต้าและไอ้อาร์ตยืนมองรถที่เลี้ยวไปสุดสายตาก่อนไปจับไหล่ไอ้อาร์ตแววตามันยังบ่งบอกถึงความเสียใจอยู่อย่างเห็นได้ชัดแต่ดูว่าไอ้อาร์ตมันจะเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมมันไม่ยอมกลับมานั่งรถเข็นอีกถึงแม้จะเจ็บแต่มันก็พยายามเดินด้วยตัวเองคงอยากให้บี้ได้เห็นว่ามันสามารถอยู่ได้
ไอ้อาร์ตอยู่โรงพยาบาลอีกหนึ่งคืน หลังจากนั้นก็ไปพักที่หอ ญาติๆบี้มาเก็บของที่หอของบี้ไปหมดแล้วเหลือแต่ห้องเปล่าๆ ผมไม่รู้ว่าไอ้อาร์ตมันจะรู้สึกอย่างไรที่ทุกวันเวลาเดินขึ้นหรือเดินลงจากห้องจะต้องเห็นห้อง
ของคนที่ตัวเองรักมากแต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วแต่ไอ้อาร์ตก็ไม่แสดงความเสียใจมากมายให้ได้เห็นอีกเลยมันแค่แอบร้องไห้เงียบๆไม่ได้ฟูมฟายอะไร
พวกเราไปงานศพของบี้ทุกคืนจนถึงวันเผาอาร์ตมันก็บวชหน้าไฟให้กับบี้จริงๆตามที่มันบอกแม่ของบี้ไว้จนกระทั่งงานศพของบี้เรียบร้อยไปแล้วผมก็คุยกับไอ้อาร์ตมันตรงๆ
พวกเราไปงานศพของบี้ทุกคืนจนถึงวันเผาอาร์ตมันก็บวชหน้าไฟให้กับบี้จริงๆตามที่มันบอกแม่ของบี้ไว้จนกระทั่งงานศพของบี้เรียบร้อยไปแล้วผมก็คุยกับไอ้อาร์ตมันตรงๆ
"อาร์ตมึงไปอยู่บ้านกูให้สบายใจก่อนไหม"ผมถามไอ้อาร์ตเพราะไม่อยากให้มันอยู่ที่นี่คนเดียวและมันคงไม่กลับไปอยู่ที่บ้านแน่ๆ
เพราะไอ้อาร์ตมันไม่ได้บอกพ่อแม่หรือพี่ออยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
ไอ้อาร์ตมองไปรอบๆ
ไอ้อาร์ตมองไปรอบๆ
"ไม่เป็นไรหรอก
กูอยู่ได้"ไอ้อาร์ตตอบเสียงเรียบผมกับไอ้ต้ามองหน้ากันก่อนนี้ผมคุยกับไอ้ต้าไว้แล้วว่าจะชวนอาร์ตมันมาอยู่ด้วยสักพักให้มันทำใจได้ก่อนแต่ไอ้อาร์ตดูเหมือนจะไม่อยากจากที่นี่ไปเลย
"ไปอยู่บ้านพี่เหอะอาร์ต จะได้สบายใจ"ไอ้ต้าช่วยอีกแรงแต่อย่าคิดนะเว้ยว่ากูกับไอ้ต้าจะคิดอะไรกับไอ้อาร์ตแม่งช่วงนั้นไม่มีอารมณ์จริงๆว่ะขนาดกูกับไอ้ต้าเองก็ยังไม่ได้เอากันเลยแล้วคิดเหรอว่าไอ้อาร์ตจะโดน
ผมกับไอ้ต้าพยายามคะยั้นคะยอแต่ไอ้อาร์ตก็ไม่ยอมจนผมกับไอ้ต้าตัดสินใจว่าจะอยู่เป็นเพื่อนมันต่อที่นี่อีกสักหนึ่งสัปดาห์อย่างน้อยให้มันได้มีเพื่อนคุยสักคนก็ยังดีกว่าต้องพูดกับตัวเองในความคิด
เวลาค่อยๆเดินทางอย่างเชื่องช้าเหมือนที่มีคนเคยบอกว่าเวลาที่เราอยู่ในความทุกข์เวลามันเหมือนจะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเวลาที่เรามีความสุขจริงๆแล้วโลกของเราก็ยังหมุนในอัตราความเร็วเท่าเดิมเพียงแต่หัวใจเราเต้นช้าลงต่างหาก
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ทุกอย่างดูจะดีขึ้นมากไอ้อาร์ตยังคงมีแววตาเศร้าสร้อยเหมือนเคยแต่มันดูเข้มแข็ง
"ไปอยู่บ้านพี่เหอะอาร์ต จะได้สบายใจ"ไอ้ต้าช่วยอีกแรงแต่อย่าคิดนะเว้ยว่ากูกับไอ้ต้าจะคิดอะไรกับไอ้อาร์ตแม่งช่วงนั้นไม่มีอารมณ์จริงๆว่ะขนาดกูกับไอ้ต้าเองก็ยังไม่ได้เอากันเลยแล้วคิดเหรอว่าไอ้อาร์ตจะโดน
ผมกับไอ้ต้าพยายามคะยั้นคะยอแต่ไอ้อาร์ตก็ไม่ยอมจนผมกับไอ้ต้าตัดสินใจว่าจะอยู่เป็นเพื่อนมันต่อที่นี่อีกสักหนึ่งสัปดาห์อย่างน้อยให้มันได้มีเพื่อนคุยสักคนก็ยังดีกว่าต้องพูดกับตัวเองในความคิด
เวลาค่อยๆเดินทางอย่างเชื่องช้าเหมือนที่มีคนเคยบอกว่าเวลาที่เราอยู่ในความทุกข์เวลามันเหมือนจะเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าเวลาที่เรามีความสุขจริงๆแล้วโลกของเราก็ยังหมุนในอัตราความเร็วเท่าเดิมเพียงแต่หัวใจเราเต้นช้าลงต่างหาก
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ทุกอย่างดูจะดีขึ้นมากไอ้อาร์ตยังคงมีแววตาเศร้าสร้อยเหมือนเคยแต่มันดูเข้มแข็ง
กว่าเดิมเยอะสามารถยิ้มและหัวเราะได้บ้างแล้วผมกับไอ้ต้าโล่งใจขึ้นเรื่อยๆที่เห็นไอ้อาร์ตมันสามารถ
อยู่กับโลกแห่งความจริงได้ดีขึ้น
อีกสองสัปดาห์ มหาลัยผมจะเปิดเทอมแล้วผมกับไอ้ต้าก็ต้องกลับมาเคลียร์เรื่องต่างๆอีกเยอะผมพยายามถ่วงเวลาอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วแต่สุดท้ายเราสองคนก็ต้องกลับมาอยู่ดีจนวันสุดท้ายผมก็ถาม
อีกสองสัปดาห์ มหาลัยผมจะเปิดเทอมแล้วผมกับไอ้ต้าก็ต้องกลับมาเคลียร์เรื่องต่างๆอีกเยอะผมพยายามถ่วงเวลาอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วแต่สุดท้ายเราสองคนก็ต้องกลับมาอยู่ดีจนวันสุดท้ายผมก็ถาม
ไอ้อาร์ตมันตรงๆว่ามันสามารถอยู่คนเดียวได้ไหมไอ้อาร์ตมันยิ้มและตอบผมอย่างมั่นใจในแววตา
ถึงแม้มัน
จะดูเศร้าๆก็ตามที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น